ดีเอสไอ 7 ส.ค.-ชาวพะเยากว่า 20 รายเข้าร้องดีเอสไอ ตกเป็นเหยื่อแชร์น้ำมัน-แชร์เงินกู้-แชร์ผักสด เสียหายกว่า 30 ล้าน
นายอนุรักษ์ วิจิตรพันธ์ ทนายความและผู้ประสานงาน นำผู้เสียหายกว่า 20 รายจังหวัดพะเยา ที่ถูกหลอกให้ลงทุนแชร์น้ำมัน แชร์เงินกู้ระหว่างประเทศ และแชร์ผักสด ได้รับความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท เข้าร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เพื่อให้รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ และร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ มารับเรื่องไว้
นางศรีวรรณ แย้มพวง หนึ่งในผู้เสียเปิดเผยว่า ถูกหลอกไป 15 ล้านบาท โดยเรื่องมีอยู่ว่าถูกชักชวนจากเพื่อนคนสนิทให้ร่วมลงทุนหุ้นน้ำมันเมื่อปี 2557 โดยมี น.ส.ประภพภร ฟองคำ เป็นแม่ทีมและเสนอตอบแทนรายได้ขึ้นลงอยู่ในอัตราราคาน้ำมันโลกและอ้างว่านายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีต ส.ส.จังหวัดพะเยา ถือหุ้นใหญ่อยู่เลยหลงเชื่อ ลงทุนไปครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 1แสนบาท จากนั้นเดือนต่อมาก็ได้เงินปันผล20,000 บาทเป็นค่า ตอบแทนและได้เงินค่าตอบแทนติดต่อกันมา 3 เดือน จึงหลงเชื่อลงเพิ่มไปอีก 2 แสน จากนั้นก็ได้เงินปันผลมาอีก 2 เดือนแล้วต่อมาก็ไม่ได้อีกเลย
ต่อมา น.ส.ประภพภร ได้ชักชวนให้ลงทุนหุ้นเงินกู้ระหว่างประเทศและหุ้นผักสด จึงหลงเชื่อลงทุนเพิ่มไปอีก9 แสน และลงเพิ่มเรื่อยๆ จนถึง 15 ล้าน จากนั้นปี 2559 ก็ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ประภพภร ได้อีกเลย จากนั้นตนพร้อมผู้เสียหายทั้งหมดจึงทำการแจ้งความน.ส.ประภพภร พร้อมพวกอีก 5 คน ในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชนและทางอัยการได้มีการสั่งฟ้องและเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมาศาลมีคำสั่งให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนแต่ น.ส.ประภพภร เพียงรายเดียวที่ต้องชำระเงิน 29 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ น.ส.ประภพภร ยังคงยังไม่ยอมชำระหนี้แต่ตนพร้อมผู้เสีย หายอื่นได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว วันนี้จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรมและอยากให้ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ทางดีเอสไอจะรับเรื่องไว้และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำข้อมูลจากผู้เสียหายเพื่อเสนอเรื่องผ่านกองบริหารคดีพิเศษว่าเข้าข่ายเงื่อนไขที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย