“มีชัย” เชื่อ แก้กฎหมาย กกต. ไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้ง

รัฐสภา 7 ส.ค. – “มีชัย” เชื่อ แก้กฎหมาย กกต. ไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้ง แนะให้สอบถามความเห็น กกต.ด้วย  


นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมเสนอแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ศ. 2560 เกี่ยวกับวิธีการเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง ว่า  ผู้ตรวจการเลือกตั้งถือเป็นมือไม้ของ กกต. ในการทำงานในรูปแบบที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการ เพื่อให้การทำงานเกิดความรวดเร็ว  ส่วนตัวยังไม่ทราบแนวทางการเสนอแก้ไขของ สนช. ครั้งนี้ 

ส่วนกรณีที่ สนช.อ้างว่า การเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งโดย กกต.ชุดปัจจุบัน อาจทำให้เกิดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองได้นั้น นายมีชัย กล่าวว่า  ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องนานาจิตตัง เพราะเวลาที่ สนช.แต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะกรรมาธิการ ก็ไม่ได้หมายความว่า คนข้างนอกจะพอใจ และอะไรที่เป็นอำนาจของคนอื่น ก็ต้องฟังคนอื่นด้วย 


ต่อข้อถามว่า การคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้ง ควรเป็นอำนาจของกกต.ชุดใหม่ หรือชุดปัจจุบัน  นายมีชัย กล่าวว่า ควรควบคู่กัน โดยที่ กกต.ชุดใหม่จะพิจารณาบุคคลที่ กกต.ชุดปัจจุบัน เลือกมา  แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ปรากฏรายชื่อทั้ง 616 คน กกต.ได้เคาะเลือกแล้วหรือยัง  เพราะจากประกาศของ กกต.ระบุว่า เพื่อให้ทราบถึงแนวคิดและจะดำเนินการแต่งตั้งต่อไป ซึ่งหากยังไม่ได้เลือก เท่ากับว่า กกต.ชุดใหม่ สามารถเข้ามาพิจารณาและแก้ไขได้  หากเห็นว่าไม่เหมาะสม 

ส่วนการเสนอขอปรับแก้โครงสร้างของคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งใหม่ ให้ยึดโยงกับจังหวัดนั้น นายมีชัย เห็นว่า เป็นเรื่องยาก  

นายมีชัย  ยังกล่าวถึง การแก้ไขกฎหมาย  กกต. ว่า  โดยพื้นฐานควรต้องสอบถามความเห็นจาก กกต.ด้วย เนื่องจากเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง  เช่นเดียวกับตอนยกร่างกฎหมายนี้ กรธ.ก็ได้มีการเชิญ กกต.มาสอบถามความเห็น  ในฐานะผู้มีประสบการณ์และพื้นฐานที่ดีกว่า ยกเว้นทางทฤษฎีที่เห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  แต่หาก สนช.จะทำการเสนอกฎหมายเพียงฝ่ายเดียว ก็สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติอยู่แล้ว 


“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากไม่มีปัญหาข้อกฎหมาย ยกเว้น กกต.จะทักท้วง แต่เชื่อว่าในที่สุดก็จะมีทางออกในเรื่องนี้ได้ และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้งด้วย” นายมีชัย กล่าว .- สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง