สบส. เตรียมทีมเอ็มเสิร์ทเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ 24ชม.

สบส. 6 ส.ค.-กรมสบส.เตรียมพร้อมทีมวิศวกรฉุกเฉินจากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ร่วมเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำและฝนตกหนัก หากพบสถานพยาบาลใดประสบภัยต้องพร้อมเข้ากู้ชีพสถานพยาบาลทันที ย้ำระบบไฟฟ้า ประปา สื่อสาร ฯลฯ ต้องพร้อมไม่ให้เกิดผลกระทบกับบริการประชาชน 


นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)กระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ว่า ตามประกาศเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 6-9 ส.ค.ทั่วประเทศจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ประชาชนในพื้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจจะทำให้เกิดทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม และสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งได้ ดังนั้น กรม สบส.จึงได้กำชับให้กองวิศวกรรมการแพทย์, กองแบบแผน และสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต 1-12 เตรียมพร้อมทีมวิศวกรฉุกเฉินหรือทีมเอ็มเสิร์ท (Medical Supportive Emergency Response Team : MSERT) เข้าช่วยเหลือสถานพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักตลอด 24 ชั่วโมง  


โดยเฉพาะจังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำล้นเขื่อนตามรายงานสถานภาพน้ำเขื่อน ของกรมชลประทาน ซึ่งเผยว่ามีเขื่อนซึ่งอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นกังวล 2 แห่ง คือ 1.เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีปริมาตรน้ำในเขื่อน 100 เปอร์เซ็นต์ และ2.เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร ซึ่งมีปริมาตรน้ำในเขื่อนสูงถึง 102 เปอร์เซ็นต์ จึงได้เน้นย้ำ สบส.เขต 5 จังหวัดราชบุรี และสบส.เขต 8 จังหวัดอุดรธานีเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษหากเกิดเหตุฉุกเฉินทีมเอ็มเสิร์ทจะต้องพร้อมที่จะลงพื้นที่เข้ากู้ชีพระบบสำคัญของสถานพยาบาล ทั้ง 5 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย ระบบไฟฟ้า, ระบบประปา, ระบบสื่อสาร,  เครื่องมือแพทย์ และอาคารสถานที่  โดยทันทีเพื่อมิให้เกิดผลกระทบกับบริการประชาชน หรือหากเกิดผลกระทบจะต้องฟื้นฟูให้เร็วที่สุด


นอกจากนี้  กรม สบส.จะมอบหมายให้กองสุขศึกษา และกองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชนร่วมสนับสนุนสื่อความรู้ด้านสุขภาพป้องกันโรคในสถานการณ์น้ำท่วมเพื่อให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ เช่น โรคน้ำกัดเท้า, โรคตาแดง หรือโรคอุจจาระร่วง พร้อมประสานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมสอดส่องเฝ้าระวังประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับการเข้าถึงบริการสาธารณสุขในเหตุการณ์น้ำท่วมร่วมด้วยอีกทาง 

สำหรับสถานพยาบาลหรือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการความช่วยเหลือในการฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ประปา ระบบสื่อสาร หรือออกแบบโครงสร้างป้องกันน้ำท่วมสามารถประสานได้ที่กรม สบส. ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 590 2048 (กองวิศวกรรมการแพทย์) หรือ 02 193 7000 ต่อ  18301 (กองแบบแผน) และในส่วนภูมิภาคสามารถประสานได้ที่สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 1-12 .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก