ศาลรัฐธรรมนูญ 20 ก.ย. – ป.ป.ช.ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยการชี้มูลคดี หลังศาลปกครอง ชี้มีอำนาจเพียงคดีทางวินัยเฉพาะการทุจริต่อหน้าที่ราชการเท่านั้น
นายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัย อำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาดว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม อันเป็นการใช้อำนาจวินิจฉัยในฐานะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
เนื่องจากศาลปกครองสูงสุด เคยวินิจฉัย ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนและชี้มูลคดีวินัย เฉพาะฐานความผิดทุจริตต่อหน้าที่ราชการเท่านั้น ส่วนฐานความผิดอื่น ๆ คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ กระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม คณะกรรมการป.ป.ช.ไม่มีอำนาจ
นอกจากนี้ยังขอให้พิจารณาว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดวินัยตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้ทุกฐานความผิดที่เป็นผลมาจากความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือไม่
รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร ป.ป.ช.พร้อมน้อมรับและปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินงาน เพราะมีบางคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางวินัยแล้วพบว่าแม้ไม่ได้กระทำทุจริต แต่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ เป็นต้น
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว คือคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.505/2553 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1037/2558 ที่ นายสมปอง คงศิริ อดีตนายช่างรังวัด 7 ฝ่ายรังวัด สำนักงานที่ดิน จ.นนทบุรี (ผู้ฟ้อง) ยื่นฟ้อง อธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกฟ้อง) กรณีมีคำสั่งกรมที่ดิน ที่ 1567/2547 ไล่นายสมปองออกจากราชการ เมื่อปี 2547 หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดนายสมปอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างรังวัด 5 ฝ่ายรังวัด สำนักงานที่ดิน จ.ปทุมธานี สาขาธัญบุรี กรณีได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยกำกับการเดินสำรวจฝ่ายรังวัด กองกำกับการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.เชียงราย แต่ปรากฏว่า นายสมปองได้ลงชื่อเสนอให้ออกโฉนดที่ดิน รวม 24 แปลง ทั้งที่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ลุ่มน้ำท่วมถึงตามธรรมชาติ ซึ่งไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะขอออกโฉนดที่ดินได้ ทำเพียงแค่สอบถามไปยัง อ.แม่จัน และหน่วยศิลปากรที่ 4 เชียงแสน แล้วลงชื่อตรวจเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา โดยไม่มีการลงตรวจสอบพื้นที่จริง เป็นเหตุให้มีการออกโฉนดที่ดินดังกล่าวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย