ยกเลิกพาทีมสังหาร “สปาย-ฟอส” ชี้จุด-เร่งล่า “เสี่ยอ้วน” คลายปมมือลั่นไก

ชลบุรี 3 ส.ค.-ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุฆ่าโหด 2 หนุ่มสาวที่เขาชีจรรย์ไปชี้จุดเกิดเหตุ แต่ล่าสุดมีการยกเลิกกะทันหัน ขณะที่ชุดสืบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับอีก 2 คน


ชุดสืบสวนคุมตัวนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือป๊อปปี้ อายุ 34 ปี หนึ่งในทีมสังหารโหดนางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา จาก สภ.เมืองพัทยา มายัง สภ.นาจอมเทียน เพื่อเตรียมนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาถูกสอบปากคำอย่างเข้มข้น แต่ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ บอกว่ามากับ “เสี่ยอ้วน” แต่ไม่รู้เห็นการสังหาร

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าชุดสืบสวนได้ยกเลิกการชี้จุดและทำแผนฯ ในวันนี้ โดยคาดว่าจะดำเนินการในวันพรุ่งนี้เช้าแทน ก่อนจะพาผู้ต้องหา 2 คน คือ นายป๊อบปี้ และนายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือบอล ไปขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้


ขณะที่ชุดวิทยาการได้เข้าตรวจสอบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ที่ผู้ต้องหาเช่ามาจากพัทยา เพื่อเป็นยานพาหนะคุ้มกัน “เสี่ยอ้วน” และคอยขับตามประกบผู้ตาย ก่อนเตรียมนำส่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจสอบเพิ่มเติม

โดยวันนี้ (3 ส.ค.) มีญาติของบอลนำอาหารและเสื้อผ้ามาให้ แต่ตำรวจไม่อนุญาต โดยญาติของบอลบอกว่าผู้ต้องหามีนิสัยนักเลงตั้งแต่เด็ก ทำงานเป็นบอดี้การ์ดผับที่ภูเก็ตมาหลายปี พอทราบข่าวจึงเดินทางเข้าเยี่ยม แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน

สำนักข่าวไทยได้ข้อมูลจากชุดสืบสวน พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจมีมากถึง 6 คน เริ่มจาก “เสี่ยอ้วน” และ “ป๊อบปี้” บินมาจากภูเก็ตและลงที่อู่ตะเภา เมื่อ 27 กรกฎาคม จากนั้นกลุ่มของนายบอลและนายบ่าว พร้อมพวกที่ยังไม่ทราบชื่อ ขับรถเก๋งซีอาร์วี และรถกระบะวีโก้มาจากภูเก็ต ก่อนมารับเสี่ยอ้วนเข้าบ้านเช่าแถวนาเกลือ และเช่ารถยาริสเพื่อคอยขับประกบผู้ตาย


จากนั้นนายสายันต์ ศรีสุข หรือนายยัน เป็นผู้ชี้เป้ากลุ่มผู้ตายว่าอยู่จุดใด ผ่านการแชร์โลเกชั่นไลน์ กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิต 2 คน พร้อมเพื่อน และนายยันได้มาถึงเขาชีจรรย์ จึงส่งสัญญาณให้เสี่ยอ้วนและพวกขับรถซีอาร์วีที่เปลี่ยนมาใช้ทะเบียนป้ายแดง บุกมากระหน่ำยิงผู้ตาย โดยเสี่ยอ้วนยิงสปายก่อน 4 นัดซ้อน ก่อนเหนี่ยวไกสังหารฟอสอีก 3 นัด ก่อนหลบหนีไปทางบ้านหนองจับเต่า ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางอำเภอสัตหีบ และถอดแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงและทิ้งอาวุธปืน

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุถูกออกหมายจับแล้ว 4 คน จับได้ 3 คน อีก 1 คน ยังจับไม่ได้ ประกอบด้วย นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ยังจับกุมตัวไม่ได้ ส่วนนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือป๊อบปี้ อายุ 34 ปี, นายสายันต์ ศรีสุข หรือยัน อายุ 43 ปี และนายเกียรติศักดิ์ สุรางค์แสงมีบุญ หรือบอล อายุ 35 ปี จับได้แล้ว ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน ทราบชื่อคือ “บ่าว” กับ “แม็ก” แต่ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อหาหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้