กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – กรมชลฯ ติดตามและบริหารจัดการน้ำภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง เร่งลดผลกระทบอุทกภัย
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำทั่วประเทศ หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคอีสาน ส่งผลให้ระดับน้ำในลำห้วยธรรมชาติ และแม่น้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำชี-มูล มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นหลายแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ปัจจุบัน (2 ส.ค.) มีพื้นที่ที่ได้ผลกระทบในจังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี นครพนม และสกลนคร
สำหรับจังหวัดยโสธร เกิดฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่ ทำให้น้ำจากลำน้ำลำเซบายเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ไทยเจริญ อ.ป่าติ้ว อ.กุดชุม และอ.คำเขื่อนแก้ว รวมมีพื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 37,889 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำเซบายที่สถานี M.32 อ.ป่าติ้ว มีปริมาณน้ำ 340 ลบ.ม./วินาที สูงกว่าตลิ่ง 1 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ส่วนลุ่มน้ำชี ที่สถานีวัดน้ำ E.2A บริเวณ อ.เมือง มีปริมาณน้ำ 953 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.47 เมตร และสถานีวัดน้ำ E.20A อ.มหาชนะชัย ปริมาณน้ำ 936 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.67 เมตร แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนการให้ความช่วยเหลือ กรมชลประทานโดยโครงการชลประทานยโสธรได้ประสานไปยังโครงการชลประทานอำนาจเจริญ เร่งการระบายน้ำผ่านเขื่อนลำเซบาย พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำที่ท่วมขังบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
จังหวัดร้อยเอ็ด จากสถานการณ์น้ำในลำน้ำยังไหลเข้าท่วมพื้นที่ริม 2 ฝั่ง ส่งผลให้มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยบริเวณ อ.เสลภูมิ ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมฝั่งซ้ายของลำน้ำยัง (นอกเขตคันพนังกั้นน้ำ) ประมาณ 5,000 ไร่ และฝั่งขวาของลำน้ำยัง (ในเขตคันพนังกั้นน้ำ) มีปริมาณน้ำเอ่อล้นข้ามคันพนัง 2 จุด บริเวณ อ.โพนทองและอ.เสลภูมิ ประมาณ 10,000 รวมพื้นที่ประสบอุทกภัยประมาณ 17,000 ไร่ และสถานการณ์การน้ำในลำน้ำยัง ปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ E.92 บ้านท่างาม อ.เสลภูมิ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 687 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.22 เมตร ระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำบริเวณพื้นที่ที่เคยซ่อมพนังกั้นน้ำลำน้ำยัง พร้อมนำรถ backhoe จำนวน 6 คัน รถบรรทุก 8 คัน ไปยังบริเวณจุดเสี่ยงที่มีน้ำปะทะพนัง อีกทั้งประสานกรมทางหลวงเพื่อตัดถนนเส้นทางหลวง 2259 สายเสลภูมิ – คำพล ยาว 50 เมตร เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำชีตอนล่างมายังแม่น้ำมูลและไหลลงสู่แม่น้ำโขงตามลำดับ
จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบท่วมจำนวน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.นาตาล อ.เขื่องใน อ.เขมราฐ อ.โพธิ์ไทร อ.โขงเจียม อ.ดอนมดแดง และอ.ตระการพืชผล รวมพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ เนื่องจากสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนธาตุน้อย อ.เขื่องใน ปัจจุบัน(2 ส.ค. 61)มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 916 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนธาตุน้อยสูงกว่าระดับควบคุม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งบริเวณ ต.ค้อทอง อ.เขื่องในได้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดไว้ด้วย ส่วนลุ่มน้ำชี บริเวณสถานีวัดน้ำ E.98 อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ล่าสุด(เวลา 12.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 61) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 804 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.78 เมตร มีแนวโน้มทรงตัว
จังหวัดนครพนม จากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 15 – 28 ก.ค. 61 วัดปริมาณฝนสะสมได้ 453.5 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีพื้นที่น้ำท่วมรวม 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าอุเทน อ.ธาตุพนม อ.บ้านแพง อ.เมือง อ.โพนสวรรค์ อ.ปลากปลา อ.เรณูนคร และ อ.นาแก รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 128,098 ไร่ โครงการชลประทานนครพนม เร่งให้ความช่วยเหลือโดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง บริเวณ อ.เมือง และเครื่องผลักดันน้ำบริเวณประตูระบายน้ำต่างๆ รวมจำนวน 14 เครื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมในพื้นที่ คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7 วัน
จังหวัดสกลนคร เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เมืองสกลนคร ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.โคกศรีสุพรรณ อ.พรรณนิคม และอ.โพนนาแก้ว รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 9,000 ไร่ โครงการชลประทานสกลนคร จึงได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง บริเวณหนองสนม อ.เมือง 1 เครื่อง และบริเวณโรงบำบัดน้ำเสียสกลนคร 2 เครื่อง พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง และบริเวณ อ.โพนนาแก้ว เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้จัดจราจรน้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ด้วยการเปิดบานระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ ในแม่น้ำชีทุกแห่ง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย เพื่อเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชีให้ไหลลงแม่น้ำมูลออกสู่แม่น้ำโขงโดยเร็ว พร้อมลดบานระบายน้ำเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เพื่อชะลอน้ำจากแม่น้ำมูลและควบคุมไม่ให้เกิดผลกระทบบริเวณด้านเหนือเขื่อนราษีไศล หากปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมา, บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มีปริมาณมาก จะดำเนินการยกบานระบายน้ำขึ้นทันที เพื่อลดผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณด้านเหนือเขื่อน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่ใดที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถขอความช่วยเหลือไปยังโครงการชลประทานใกล้บ้านได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย