รัฐสภา 2 ส.ค.-อลงกรณ์ระบุเป็นสิทธิที่ปชป.จะฟ้องนคร มาฉิมกล่าวหาร่วมขบวนการโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แนะอย่าเข้าเพื่อไทย แต่ควรไปอยู่กับพรรคที่อุดมการณ์ตรงกัน
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แสดงความเห็นกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะฟ้องนายนคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ของพรรค ว่า เป็นสิทธิโดยชอบของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะฟ้องร้องต่อศาลหรือแจ้งความดำเนินคดีเพื่อปกป้องชื่อเสียงเกียรติภูมิ เพราะข้อกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิด ดำเนินการอย่างเป็นขบวนการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยวิธีการนอกแนวทางระบอบประชาธิปไตย เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและมีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรค
“การที่นายนครยืนยันว่าพร้อมจะนำพยานหลักฐานเข้าพิสูจน์ในชั้นศาล ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการรับรู้ของสาธารณชนถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของปัญหาการเมืองเพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงและหาทางแก้ไขปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้นต่อไป เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมา ระบบการเมืองแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น มีทุจริตคอรัปชั่นกันมากมายในระยะหลัง ทำให้การต่อสู้ทางการเมืองเริ่มใช้วิธีการนอกลู่นอกรอย สร้างความแตกแยก แบ่งประชาชนเป็นฝักฝ่าย ใช้ความรุนแรงประหัตประหารกัน จนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง ในที่สุดก็รักษาประชาธิปไตยไว้ไม่ได้ เกิดการรัฐประหารในที่สุด เหมือนวงจรอุบาทว์ ซึ่งเป็นเช่นนี้มา 13 ครั้งตั้งแต่ปี 2475เป็นต้นมา” นายอลงกรณ์ กล่าว
ส่วนกรณีนายนครขอโทษนายทักษิณ ชินวัตรและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่เหตุผลที่ยกขึ้นมาเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวเหมือนด้านเดียวของเหรียญ ซึ่งควรจะพิสูจน์ความจริงข้อกล่าวอ้างดังกล่าว จะในทางศาลหรือการชี้แจงข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่นายนครไม่กล่าวถึงคือปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล รวมทั้งการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอยเพื่อตนเองและพวกพ้อง ซึ่งเป็นสาเหตุและเป็นข้ออ้างหนึ่งของการรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ซึ่งนายนครเองก็เคยร่วมคณะตรวจสอบการทุจริตที่ตนเป็นประธานในช่วงปี 2545-2549 ย่อมทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร
“สำหรับนายนคร โดยส่วนตัวผมรู้จักและเคยทำงานร่วมกันในพรรคประชาธิปัตย์และในสภากว่า10ปี ถือว่าเป็นนักการเมืองดี มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ยึดมั่นระบบรัฐสภาและต่อต้านเผด็จการชัดเจน ผมไม่รู้เหตุผลหรือเหตุจูงใจของการแสดงออกครั้งนี้ แต่ในฐานะพี่ อยากแนะนำน้องว่าอย่าเข้าพรรคเพื่อไทย มิฉะนั้นจะถูกมองว่าการแสดงออกล่าสุดเป็นเพียงใบเบิกทางตีตั๋วเข้าพรรคเพื่อไทย โดยโจมตีพรรคที่เคยสังกัดเท่านั้น นายนครควรเข้าพรรคอื่นที่มีอุดมการณ์ตรงกัน จะดีต่ออนาคตทางการเมืองในวันข้างหน้า” นายอลงกรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
