เด็ก 1 ขวบเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในสถานสงเคราะห์

ปทุมธานี 30 ก.ค.-ปู่และย่าของเด็กชายเอ วัย 1 ขวบ 10 เดือน ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต จ.ปทุมธานี เข้าแจ้งความตำรวจ สงสัยการตายของหลานชาย ด้านสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุสาเหตุการตายเกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่สมอง จากศีรษะกระแทกของแข็งไม่มีคม


โดยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 นายอนันต์ศักดิ์ เอี่ยมดีเลิศ และนางสุดารัตน์ ฤทธิ์โพธิ์ ปู่และย่าของเด็กชายเอ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรธัญบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ โดยให้หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเนื่องจากญาติยังติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตของหลานชาย ส่วนศพทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดหงส์ปทุมาวาส 1 คืน และเผาวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 


ด้านนางสุดารัตน์ ฤทธิ์โพธิ์ ย่าของเด็ก กล่าวว่า นำหลานไปฝากสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตเลี้ยงตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2561 และวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าน้องต้องผ่าตัด เนื่องจากน้องเกิดอาการชักเกร็ง จึงได้ส่งมารักษาที่โรงพยาบาลธัญบุรี แพทย์ได้ตรวจพบว่ามีเลือดออกในสมองจนไปเบียดก้อนสมองจึงต้องผ่าตัดด่วน โดยได้ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลปทุมธานี เนื่องจากมีเครื่องมือแพทย์ที่พร้อมผ่าตัดมากกว่า จากนั้นได้เสียชีวิตในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ซึ่งผู้ดูแลเด็กไม่ได้แจ้งให้ทราบเลยว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่กลับมาถามเราว่าเด็กเกิดอุบัติเหตุมาจากที่บ้านเดิมหรือเปล่า ก่อนที่น้องจะมาเข้าที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตได้ต้องมีใบรับรองจากแพทย์ รับรองว่าน้องมีสุขภาพแข็งแรงดีทุกอย่าง ซึ่งก็ไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตเหมือนกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร

ส่วนนายอนันต์ศักดิ์ เอี่ยมดีเลิศ ปู่ของเด็ก กล่าวว่า พวกเราติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของหลาน ว่าเกิดอะไรขึ้น หลานถึงได้เสียชีวิต เนื่องจากเรายังไม่ได้รับความกระจ่างจากสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตซึ่งเป็นผู้ที่เลี้ยงดู มีเจ้าหน้าที่บอกว่าได้สอบถามผู้ที่เลี้ยงเด็กแล้ว แต่เราก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย ที่ผ่านมาเราก็ได้ไปเยี่ยมหลาน ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 เมื่อเห็นหลานถึงกับตกใจ เนื่องจากสภาพหลานตอนนั้นมีอาการซูบผอม เมื่อถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าน้องอยู่ในช่วงปรับตัว ทุกคนที่มาที่สถานสงเคราะห์ฯ จะเป็นแบบนี้ จากนั้นภายใน 1 เดือนหรือ 2 เดือน สภาพของเด็กจะดีขึ้นและปรับตัวได้ ทางเราอยากให้ตรวจสอบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานชาย หากหลานประสบอุบัติเหตุโดยธรรมชาติไม่ได้เกิดจากคนกระทำ ทางเราก็ไม่ติดใจอะไร แต่ถ้าเกิดจากเหตุที่ถูกคนกระทำมาเราก็รับไม่ได้


ด้านนางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงดูเด็กว่าน้องเกิดอาการชักเกร็ง สอบถามเบื้องต้นไม่มีการลื่นหกล้ม ในส่วนเรื่องของรายละเอียดอยากจะขอเวลาให้ทางเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ฯ ได้หาข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และจากสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะนี้ทางสถานสงเคราะห์ฯ ได้เข้ามาเยียวยาจิตใจของญาติ รวมถึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำศพและการรักษา อะไรที่เราสามารถช่วยเหลือทางเราก็ดำเนินการเต็มที่ ในส่วนของภาพกล้องวงจรปิดภายในตึกเลี้ยงดูเด็กถือว่าเป็นข้อพกพร้องของทางสถานสงเคราะห์ฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างแผนดำเนินการติดตั้งอยู่ก่อนแล้ว แต่กลับมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเสียก่อน ปัจจุบันมีเด็กที่ต้องดูแล จำนวน 300 คน และมีเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงที่ดูแลเด็กจำนวน 50 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9

ระเบิดปัตตานี

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 จ.ปัตตานี ตำรวจเจ็บ 4 นาย

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ชาวบ้านเผยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่เป็นปกติทุกวัน คาดคนร้ายเฝ้าสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง