กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – บีทีเอสจับมือบอมบาร์ดิเอร์ แจงคืบหน้าปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณควบคุมการเดินรถไฟฟ้า เตรียมทดสอบ 27-30 ก.ค.นี้ ก่อนเปิดใช้กับรถไฟฟ้าสีเขียวใต้ปลายปีนี้
นายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการและกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ มีปัญหารถไฟฟ้าขัดข้อง เนื่องจากระบบอาณัติสัญญาณ วันที่ 25 – 27 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการหลายขั้นตอน โดยบริษัท บอมบาดิเอร์ ส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด เริ่มจากการปรับเปลี่ยนระบบวิทยุสื่อสารและได้ทำการย้ายคลื่นจาก 2400 ไปเป็น 2485 – 2490 MHz รวมทั้งติดตั้งตัวกรองคลื่นสัญญาณ (band pass filter) ที่มีความสามารถรับสัญญาณเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นที่ขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 52 ขบวน จนขณะนี้ดำเนินการเสร็จทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มการติดตั้งตัวกรองสัญญาณ (band pass filter) ที่สถานีรถไฟฟ้าทั้ง 35 สถานี และเสาสัญญาณตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งให้ครบทุกสถานี เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารให้มากที่สุด
นายอาณัติ กล่าวว่า หลังจากติดตั้งอุปกรณ์รวมทั้งปรับปรุงระบบซอฟท์แวร์พบว่าปัญหารถไฟฟ้าเกิดอาการกระชากหรือกระตุกหายไปจนเหลือไม่ถึงร้อยละ 5 และการที่เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้าจะต้องขับด้วยระบบแมนนวล ทำให้ขบวนรถเคลื่อนที่ล่าช้านั้นเกือบไม่มีเลย ซึ่งการขัดข้องน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้โดยสารยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ บอมบาดิเอร์ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่ดำเนินการเรื่องระบบอาณัติสัญญาณให้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสมีแผนติดตั้งอุปกรณ์และปรับแต่งระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบวิทยุสื่อสารที่ใช้ในการควบคุมการเดินรถไฟฟ้ามีความเสถียรมากที่สุด เพื่อรองรับการให้บริการเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ทั้ง 8 สถานี ได้แก่ สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวมระยะทาง 11 กิโลเมตรด้วย ซึ่งจะเปิดให้บริการเดือนธันวาคม 2561
บริษัทฯ ได้ทำการจัดเก็บสถิติการเดินรถทุกขบวนที่วิ่งให้บริการ เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และนำไปแก้ไขในเวลากลางคืนหลังจากปิดให้บริการแล้ว เพื่อปรับแต่งระบบให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งมีเวลาน้อยมากในการแก้ไขปัญหา บริษัทฯ จึงขอโอกาสช่วงวันหยุดยาว ตั้งแต่วันที่ 27-30 กรกฎาคมนี้ ปรับปรุงระบบ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่เกิดผลกระทบกับผู้ใช้บริการน้อยที่สุด หากมีข้อขัดข้องเกิดขึ้นและจะมีการปรับแต่งระบบให้มีความเสถียรสูงสุดในช่วงเวลาหลังจากนี้จนถึงปลายปีก่อนเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสมุทรปราการ
นายเกรกอรี่ อองจาลแบร์ท รองประธาน ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมรถไฟประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้อำนวยการจัดการ ประเทศไทย บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นพันธมิตรกับบีทีเอสปี 2550 ปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณมีแนวทางการดำเนินการ 2 วิธี คือ ปิดการให้บริการและปรับปรุงระบบซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กับระบบการให้บริการที่มีผู้โดยสารจำนวนน้อย และเปิดให้บริการตามปกติและปรับปรุงระบบในเวลากลางคืนและช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับโครงการที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก บริษัทฯ ได้ใช้วิธีการที่ 2 เพื่อให้มีผลกระทบกับผู้โดยสารน้อยที่สุด
การปรับปรุงระบบของรถไฟฟ้าบีทีเอสขณะนี้อยู่ในขั้นตอนปรับปรุงระบบส่งข้อมูล (DTS) ซึ่งเป็นเครือข่ายหลักของระบบสัญญาณ ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อระบบวิทยุ รถไฟ และรางสัญญาณเข้าด้วยกัน เพื่อให้อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถสื่อสารกันได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีสัญญาณอื่นใดมารบกวน ซึ่งระบบส่งข้อมูล (DTS) ได้ถูกนำมาใช้กันในหลายประเทศ นับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยของระบบสูง (Cyber-security) และมีการป้องกันการรบกวนจากระบบอื่นๆ ระบบใหม่นี้จะทำให้การบริการมีความเสถียรตลอดทั้งสายปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้ว และส่วนต่อขยายที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงระบบแล้ว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าปัญหาขัดข้องจะน้อยลง รวมทั้งการกระชาก กระตุกที่เคยเกิดขึ้นก็จะน้อยลงหรือไม่มีเลย
นายเกรกอรี่ กล่าวว่า บริษัทฯ เลือกใช้ช่องสัญญาณวิทยุเหมาะสมที่สุดใช้ระบบ Bombardier CBTC ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก เข้าใจเป็นอย่างดีว่า การบริการที่ล่าช้านั้น ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งในระหว่างการปรับปรุงระบบก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งหลังจากทำการทดสอบระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขัดข้องได้บ้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะพยายามดำเนินการเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการให้มากที่สุด และหากเกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น จะเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอสสามารถกลับมาให้บริการได้อย่างปกติดังเดิม.-สำนักข่าวไทย