นนทบุรี 26 ก.ค.-“สมศักดิ์ เทพสุทิน” ปฏิเสธตั้งพรรคใหม่ ส่วนความชัดเจนเข้าร่วมพลังประชารัฐ ยังไม่ถึงเวลาตอบ มั่นใจ “พล.อ.ประยุทธ์” สร้างความสงบสุขให้ประเทศ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยไม่เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และยืนยันไม่มีความคิดเรื่องนี้ ส่วนจะไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ต้องรอให้ถึงเวลาก่อน
“เพราะวันนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ หากพูดอะไรไปก็อาจจะวุ่นวาย ส่วนจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในแนวทางไหน เช่น จะชวนเป็นที่ปรึกษาพรรคหรือใส่ไว้ในบัญชีรายชื่อผู้เป็นนายกฯ นั้น ต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อนค่อยว่ากัน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเห็นว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้บ้านเมืองสงบสุข แตกต่าวจากอดีตที่หลังการเลือกตั้งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และมีความขัดแย้งจากคนหลายกลุ่ม แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไป
“เมื่อก่อนเลือกตั้งไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้เลย มีคนใส่เสื้อแบบหลากสีมา พวกเราก็ไม่มีความสุขกันหมด แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นมันจบไป อาจเป็นกรณีพิเศษที่ออกมาตรงนั้น ถ้าเราพยายามแยกแยะให้เห็นว่าเขาทำให้มันเกิดความสุข เมื่อก่อนเราเลือกตั้งมากี่ครั้ง ผมเห็นเลือกตั้งมา ไม่เห็นประกาศได้เลย เลือกตั้ง ส.ส. , ส.ว. ยังไม่ทันตัดชุดเสร็จ เขายกเลิกแล้ว เป็นมาตลอดแบบนั้นบ้านเรา แต่ พล.อ.ประยุทธ์มาทำให้ตรงนี้นิ่งได้ มันก็เป็นมุมที่น่าสนใจ ผมคิดว่าถ้ามองแล้ว เขาทำให้เกิดความสงบสุขได้ ก็ต้องพิจารณา” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวปฏิเสธการเดินสายดูดอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่น เพราะความเคลื่อนไหวของกลุ่มในขณะนี้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาพืชผลทางการเกษตร
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวทาบทามนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ว่า ไม่ได้พูดคุยกับใคร ส่วนการทาบทามแกนนำกลุ่ม นปช.เข้าร่วมกลุ่มสามมิตร นั้น มีเพียง นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาธิการกลุ่มสามมิตร ไปพบปะพูดคุยกัน ซึ่งในช่วงนี้ใครถนัดด้านไหน ก็จะไปดำเนินการ เพราะเป็นช่วงที่ปลอดการเมืองและผู้แทน หากทางกลุ่มสามมิตรทำอะไรที่สามารถทำให้ประเทศเข้มแข็ง ก็พร้อมจะทำ ซึ่งต่อไปอาจจะมีการพูดคุยเรื่องปศุสัตว์
“ผมมีความตั้งใจที่จะทำงานการเมืองแบบมัชฌิมาธิปไตยที่เป็นทางสายกลาง เพราะที่ผ่านมา ยังไม่เคยได้มีโอกาสทำงานการเมืองอย่างจริงจัง ทำให้นโยบายต่าง ๆ ที่วางไว้ไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างจริงจัง เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองมานาน” นายสมศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย