คลังเตรียมจัดสรรงบดูแลผู้มีรายได้น้อย

ก.คลัง  21 ก.ย. –  นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุม Workshop  ในโครงการ National e-Payment “เรียนรู้ และก้าวไปกับ Fintech ในแง่มุมของ National e-Payment” ว่า  หลังจากเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรับสวัสดิการจากภาครัฐ 8.3 ล้านคน ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขกำหนดมีรายได้ไม่เกิน  100,000 บาทต่อปี คาดว่าจะตรวจเสร็จเดือนตุลาคมนี้


ดังนั้น ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาการรับสวัสดิการกับผู้มีรายได้น้อย 2-3 มาตรการ เช่น มาตรการเกี่ยวกับรายได้และมาตรการดูแลความเสี่ยงในการดำรงชีวิต เช่น การทำประกันชีวิต จึงต้องหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อจัดสรรงบประมาณดูแลระบบสวัสดิการคาดว่าต้องใช้เงินเกิน 1,000 ล้านบาทต่อปี  คาดว่าเสนอ ครม.ได้เร็ว ๆ นี้  เพื่อมอบสวัสดิการให้ประชาชนได้ในไตรมาส 4 ปีนี้

นอกจากนี้ ยังต้องศึกษามาตรการอื่นเพิ่ม ทั้งบัตรผู้มีรายได้น้อยไปใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถไฟ  รถไฟฟ้า  รถเมล์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายเดินทางมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20-30 ของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  และเมื่อจัดสรรสวัสดิการปีนี้ไปแล้วจะสอบถามความพอใจกับกลุ่มดังกล่าว หากต้องการพร้อมจัดสรรปีต่อไปเพิ่ม หรือต้องปรับปรุงเงื่อนไขให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ เช่น ปรับรายได้เพิ่มเป็น 150,000 บาทต่อปี  อย่างไรก็ตาม  ยอมรับการจ่ายสวัสดิการผ่านระบบ e- Payment  ทำให้รัฐบาลช่วยเหลือได้อย่างถูกกลุ่ม ถูกเป้าหมาย ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ หรือเกิดการรั่วไหล  เช่น การช่วยเหลือผู้มีปัญหาหนี้นอกระบบ กลุ่มชาวนา ยางพารา กลุ่มผู้ต้องการมีบ้าน เมื่อรัฐบาลมีข้อมูลเหล่านี้แล้วจะได้จัดสรรแนวทางการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องมากขึ้น


นายอนุชิต อนุชิตานุกูล กรรมการนโยบายขับเคลื่อน National e- Payment มองว่า  เมื่อไทยยังติดอยู่กับสังคมใช้เงินสด  จึงไม่สามารถก้าวสู่ระบบการเงินแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพราะมีปัญหาค่าธรรมเนียม เนื่องจากธนาคารต่าง ๆ ให้บริการการรับ-จ่ายเงินสด แม้จะมีต้นทุนสูง แต่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จึงไม่คิดค่าธรรมเนียมหรือคิดค่าธรรมเนียนต่ำ แต่เก็บค่าธรรมเนียมอัตราสูงกับผู้ใช้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีต้นทุนต่ำและมีจำนวนผู้ใช้บริการไม่มาก  จึงทำให้คนส่วนใหญ่เลือกใช้บริการการรับ-จ่ายด้วยเงินสด แนวทางแก้ปัญหาจึงต้องลดค่าธรรมเนียม และทำให้ประชาหันมาใช้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสดไปพร้อมกัน  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมระบบรองรับ e- Payment ให้มีความพร้อม.-สำนักข่าวไทย

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล