นักวิชาการแนะคิดก่อนโพสต์-แชร์ อาจละเมิดสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว


กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – ครบรอบ 1 ปี สำหรับ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ หลังมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2558 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองผู้สร้างสรรค์ผลงานทุกประเภท ทั้งบทความ หนังสือ ซอฟต์แวร์ เพลง รูปภาพ ภาพวาด ภาพข่าว รวมถึงภาพยนตร์ และป้องกันผู้ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากงานนั้น พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้กำหนดโทษไว้ชัดเจน และมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น สำนักข่าวไทย มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ” ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ ” คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หลังจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ มา 1 ปีแล้ว

p11 p1


การบังคับใช้“กฎหมายลิขสิทธิ์”ครบรอบ 1 ปีเป็นอย่างไรบ้าง?

มีคนจำนวนไม่น้อยยังไม่ทราบหรือตระหนักถึงปัญหาลิขสิทธิ์ คิดว่าทุกอย่างบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นรูป ข้อความ หรือข้อมูล สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งทำรายงานหรือนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ และมีประชาชนที่อาจไม่รู้หรือไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เมื่อโดนละเมิดก็ไม่สนใจไปติดตาม แต่เริ่มมีมากขึ้นจากคนที่รู้กฎหมายรู้ดีว่าตัวเองมีสิทธิ์ในเนื้อหาข้อมูล หรือแม้กระทั่งส่วนที่เป็นภาพของตัวเองก็มีการติดตามมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้มีหลายคดีเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลภาพ ข้อมูลเสียง หรือข้อมูลต่างๆ เริ่มมีออกมาแต่ว่าอาจยังไม่เป็นที่ปรากฏมากนัก เพราะประชาชนจำนวนหนึ่งอาจยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้มากนัก

 การรับรู้เรื่อง“กฎหมายลิขสิทธิ์”เพิ่มมากขึ้นไหม?


“เรื่องนี้คนยังไม่สนใจมากนักยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์สื่อสารถึงประชาชน” แต่มีคนบางกลุ่มที่ทำงานในเชิงแนวคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป หรือตัวเนื้อหาต่างๆ แล้วโดนละเมิดลิขสิทธิ์ เริ่มตระหนักว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะใช้ตัวกฎหมายให้เป็นประโยชน์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ผลิตข่าวออนไลน์ในสำนักข่าวมาตรฐานต่างๆ เขารวมตัวกันในนามของสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ พูดถึงผู้ที่ละเมิดนำข่าวของเขาไปลงแล้วไปหารายได้ที่ไปติดโฆษณาใน Google หรือในส่วนอื่นๆ บางแห่งนำไปผลิตเป็นแอพพลิเคชั่นขายให้โหลดในแอปเปิล แล้วดึงฟีดข่าวของสำนักข่าวต่างๆ ไป จึงทำให้มีการรวมตัวฟ้องร้องทั้งในเชิงของเว็บไซต์  และฟ้องร้องในตัวที่เป็นต้นทางของ Google โดยใช้ตัวกฎหมายเหล่านี้เรียกร้องสิทธิของตัวเองเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น

 แนวทางการแก้ไขปัญหา?

“บ่มเพาะตั้งแต่เด็กๆ” ตอนเรียนหนังสือที่ผ่านมาเราอาจยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อย เด็กอาจจะไปลอกหนังสือมาจากเล่มโน้นเล่มนี้ก็เอามาได้ไม่เป็นไรโดยไม่มีการอ้างอิง แต่ในต่างประเทศไม่ได้ ถ้าไปเอาข้อมูลใดมาก็ตาม ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเอามาจากที่ไหน หากนำมาแล้วไม่อ้างอิงถึงอาจโดนฟ้องร้องได้ “เป็นการฝึกตั้งแต่เด็กให้เคารพสิทธิ์ของผู้อื่นให้เกียรติต้นทาง” และหากนำไปทำในเชิงธุรกิจต้องคำนึงด้วยว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับคนที่ไปเอาผลงานเขามาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา รูปภาพ  คลิปต่างๆ

ลิขสิทธิ์”คุ้มครองอะไรบ้างที่สามารถนำไปใช้โดยไม่ต้องขออนุญาต?

ต้องดูรายละเอียดหลายๆ อย่าง เช่น ถ้านำไปใช้เพื่อการศึกษา เขาอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไร แต่หากนำไปใช้เรื่องการสื่อสารแล้วไปหารายได้ด้วย จะต้องดูรายละเอียดเจาะลึกย่อยลงไป

 ตัวอย่างการละเมิดลิขสิทธิ์

เคสของข่าวผู้ผลิตข่าวต่างๆ หรือแม้กระทั่งบางสำนักข่าว บางเว็บไซต์ไปนำภาพในโลกออนไลน์มา เช่น ภาพวิวสวยๆ ที่เสิร์ชหาภาพจาก Google แล้วดึงออกมาทำใส่เว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเอง แต่ปรากฏว่าเจ้าของภาพมาตามเจอ จนเกิดการฟ้องหรือเรียกร้องให้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท หรือหากเป็นรายใหญ่ๆ ก็ถึงหลักล้าน แต่ภาพเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นภาพจากต่างประเทศ “อย่าลืมว่าในโลกออนไลน์เราละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ละเมิดเฉพาะของคนไทย หากของต่างชาติเราไปละเมิดหยิบก๊อปมา เราคิดว่าไม่เป็นไร แต่เขาตระหนักถึงลิขสิทธิ์ตรงนั้น เขาก็ตามหามาฟ้องได้”

p4 p5

การแชร์ต้องระมัดระวังอย่างไรไม่ให้เกิดการ“เหยียดหยาม”ในโซเชียล?

คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปหมิ่นประมาทผู้อื่น การเคารพสิทธิเป็นส่วนสำคัญอยู่แล้ว เพราะทุกคนก็ไม่อยากให้ใครมาหมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิ แม้กระทั่งในสื่อสังคมออนไลน์ก็ไม่ควรไปละเมิดหรือหมิ่นประมาทผู้อื่น

แบบไหนถือเป็นการ“ละเมิดเชิงเหยียดหยาม”?

การเหยียดเพศ เหยียดผิว เหยียดศาสนา เหยียดความคิดความเชื่อของเขาว่าเราดีกว่าเหนือกว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้กระทั่งรสนิยมบางอย่าง บางทีเราอาจจะชอบแบบหนึ่ง คนอื่นอาจจะชอบอีกแบบหนึ่ง “เรื่องรสนิยมที่แตกต่างกันเราต้องเคารพในความแตกต่าง”

p7

จะทำอย่างไรให้คนที่โพสต์คลิปหรือข้อความต่างๆ บนโลกออนไลน์ตระหนักถึงการ“เหยียดหยาม”?

“สังคมไทยยังขาดการเรียนรู้เรื่องการรู้เท่าทันสื่อ” หรือสื่อดิจิทัลที่เข้ามาใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรายังไม่รู้ว่าสิ่งที่เราโพสต์ลงไปกระทบกับคนจำนวนมาก อารมณ์ความรู้สึกของคนโดนกระตุ้นได้ง่ายขึ้น “บางทีเราไปเหยียดว่าเขาเป็นคนชาตินั้นชาตินี้ ในทางกลับกันถ้ามีคนมาบอกว่า เพราะคุณเป็นคนไทยคุณเลยทำอย่างนี้ เรายังรู้สึกไม่ดีว่า เอ๊ะ! ..ทำไมมาเหมารวมอย่างนี้ น่าจะพูดเฉพาะเป็นกรณีไปมากกว่าหรือไม่?” ก็เป็นสิ่งหนึ่งใจเขาใจเรา ถ้าไม่อยากให้คนอื่นมาว่าแบบนี้ เราเองก็อาจจะไม่ต้องทำในลักษณะนั้นในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะสื่อสังคมออนไลน์ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ“เราเข้าไปอยู่ในสังคมออนไลน์ปุ๊บ..เราได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตลอดเวลา เหมือนกับทิ้งรอยเท้าเอาไว้ในโลกดิจิทัล อีก 5-10 ปี เราก็สามารถขุดคุ้ยเจอก็ได้” จะโพสต์จะแชร์อะไรคิดให้ดีก่อน เพราะบางทีโพสต์ลงไปด้วยความสนุกสนาน หรือไม่ได้คิด หรือคิดน้อยไปหน่อย แต่มันมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก แล้วอาจจะย้อนกลับมาหาเราอีกในวันข้างหน้าก็ได้

การโพสต์คลิปข้อความที่เกี่ยวกับ“เด็ก”ต้องระวังอะไรบ้าง?

เด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะ“เด็กอาจจะได้รับผลกระทบในเชิงจิตวิทยาที่ผู้ใหญ่อาจคิดไม่ถึง” ซึ่งบางทีโพสต์ไปแซวเล่นหรือล้อเลียนเด็กเล่นๆ โดยที่ไม่คิดอะไร แต่เด็กอาจคิดก็ได้ หรือวันข้างหน้าเด็กอาจจะได้“รับผลกระทบจากการที่โดนล้อเลียน ถือเป็นการละเมิดอย่างหนึ่ง” เช่น ในหลายๆ ประเทศ การที่จะนำเด็กหรือบุคคลที่เขาไม่ยินยอมมาลงในโลกสื่อสังคมออนไลน์ ยกตัวอย่างแม้กระทั่งถ่ายรูปในสถานีรถไฟแล้วเห็นหน้าคนอื่นอยู่ยังต้องเบลอหน้าเขา ถึงแม้ว่าจะถ่ายอยู่เฉยๆ เพราะเขาถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เขาอาจจะไม่อยากให้ใครเห็นหรือรู้ว่าเขามาที่นี่ก็ได้ หรือยกตัวอย่าง Google maps เห็นอะไรต่างๆ ในพื้นที่บางพื้นที่ถ่ายให้เห็นหน้าคนยังต้องเบลอหน้าหรือเบลอทะเบียนรถด้วย อันนี้ก็ถือเป็นการละเมิดพื้นที่ส่วนตัวอย่างหนึ่ง

p8 p9

สื่อฯ ควรระมัดระวังเรื่องใดบ้างในการนำเสนอ?

หากเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อคนจำนวนมาก สื่อมวลชนยิ่งต้องมีความละเอียดรอบคอบและกลั่นกรองมากขึ้นหากจะหยิบยกประเด็นใดหรือภาพใดภาพหนึ่งมานำเสนอ ต้องคำนึงว่าจะมีผลกระทบกับคนอื่นในสังคมมากน้อยเพียงใด

แนวทางต่อไปจะมีการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ส่วนไหนบ้าง?

เน้นเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงสิทธิ การเรียกร้องสิทธิของตัวเองเมื่อถูกระเมิดว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ “ดร.มานะ” แนะนำว่าหากนำข้อมูลอะไรในโลกออนไลน์มาใช้ควร“อ้างอิง”ถึงที่มา หรือควรตรวจสอบให้ดีว่าเป็นข้อมูลที่เจ้าของยินยอมที่จะให้เปิดเผยโดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์หรือไม่ บางข้อมูลที่เจ้าของพร้อมเปิดเผยก็จะระบุไว้ชัดเจนว่าสามารถนำมาใช้ได้ หรือบางรูปเจ้าของจะประกาศไว้ในเว็บว่าสามารถนำไปใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่โดยทั่วไปหากนำเอาข้อมูลของคนอื่นมาก็ควรบอกว่านำมาจากที่ไหน

p10

ในยุคที่สื่อออนไลน์ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมาก อนาคตคงจะมีกลวิธีในการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เรายังคาดไม่ถึงอีกมาก การเรียนรู้กฎหมายลิขสิทธิ์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักสร้างสรรค์จะใช้เพื่อการยับยั้งการทำลายมูลค่าของความคิดได้ ชาวเน็ตเมื่อเข้าไปในสื่อสังคมออนไลน์เราได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะโพสต์หรือแชร์อะไร นอกจากจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ควรตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดหรือเกิดการเหยียดหยามในโลกออนไลน์เช่นที่ผ่านมา

• ทีมกองบรรณาธิการ NEW MEDIA สำนักข่าวไทย รายงาน •

เพิ่มเพื่อน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]