นักวิชาการแนะคิดก่อนโพสต์-แชร์ อาจละเมิดสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว


กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – ครบรอบ 1 ปี สำหรับ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ หลังมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2558 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองผู้สร้างสรรค์ผลงานทุกประเภท ทั้งบทความ หนังสือ ซอฟต์แวร์ เพลง รูปภาพ ภาพวาด ภาพข่าว รวมถึงภาพยนตร์ และป้องกันผู้ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากงานนั้น พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้กำหนดโทษไว้ชัดเจน และมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น สำนักข่าวไทย มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ” ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ ” คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หลังจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ มา 1 ปีแล้ว

p11 p1


การบังคับใช้“กฎหมายลิขสิทธิ์”ครบรอบ 1 ปีเป็นอย่างไรบ้าง?

มีคนจำนวนไม่น้อยยังไม่ทราบหรือตระหนักถึงปัญหาลิขสิทธิ์ คิดว่าทุกอย่างบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นรูป ข้อความ หรือข้อมูล สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งทำรายงานหรือนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ และมีประชาชนที่อาจไม่รู้หรือไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เมื่อโดนละเมิดก็ไม่สนใจไปติดตาม แต่เริ่มมีมากขึ้นจากคนที่รู้กฎหมายรู้ดีว่าตัวเองมีสิทธิ์ในเนื้อหาข้อมูล หรือแม้กระทั่งส่วนที่เป็นภาพของตัวเองก็มีการติดตามมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้มีหลายคดีเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลภาพ ข้อมูลเสียง หรือข้อมูลต่างๆ เริ่มมีออกมาแต่ว่าอาจยังไม่เป็นที่ปรากฏมากนัก เพราะประชาชนจำนวนหนึ่งอาจยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้มากนัก

 การรับรู้เรื่อง“กฎหมายลิขสิทธิ์”เพิ่มมากขึ้นไหม?


“เรื่องนี้คนยังไม่สนใจมากนักยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์สื่อสารถึงประชาชน” แต่มีคนบางกลุ่มที่ทำงานในเชิงแนวคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป หรือตัวเนื้อหาต่างๆ แล้วโดนละเมิดลิขสิทธิ์ เริ่มตระหนักว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะใช้ตัวกฎหมายให้เป็นประโยชน์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ผลิตข่าวออนไลน์ในสำนักข่าวมาตรฐานต่างๆ เขารวมตัวกันในนามของสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ พูดถึงผู้ที่ละเมิดนำข่าวของเขาไปลงแล้วไปหารายได้ที่ไปติดโฆษณาใน Google หรือในส่วนอื่นๆ บางแห่งนำไปผลิตเป็นแอพพลิเคชั่นขายให้โหลดในแอปเปิล แล้วดึงฟีดข่าวของสำนักข่าวต่างๆ ไป จึงทำให้มีการรวมตัวฟ้องร้องทั้งในเชิงของเว็บไซต์  และฟ้องร้องในตัวที่เป็นต้นทางของ Google โดยใช้ตัวกฎหมายเหล่านี้เรียกร้องสิทธิของตัวเองเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น

 แนวทางการแก้ไขปัญหา?

“บ่มเพาะตั้งแต่เด็กๆ” ตอนเรียนหนังสือที่ผ่านมาเราอาจยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อย เด็กอาจจะไปลอกหนังสือมาจากเล่มโน้นเล่มนี้ก็เอามาได้ไม่เป็นไรโดยไม่มีการอ้างอิง แต่ในต่างประเทศไม่ได้ ถ้าไปเอาข้อมูลใดมาก็ตาม ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเอามาจากที่ไหน หากนำมาแล้วไม่อ้างอิงถึงอาจโดนฟ้องร้องได้ “เป็นการฝึกตั้งแต่เด็กให้เคารพสิทธิ์ของผู้อื่นให้เกียรติต้นทาง” และหากนำไปทำในเชิงธุรกิจต้องคำนึงด้วยว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับคนที่ไปเอาผลงานเขามาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา รูปภาพ  คลิปต่างๆ

ลิขสิทธิ์”คุ้มครองอะไรบ้างที่สามารถนำไปใช้โดยไม่ต้องขออนุญาต?

ต้องดูรายละเอียดหลายๆ อย่าง เช่น ถ้านำไปใช้เพื่อการศึกษา เขาอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไร แต่หากนำไปใช้เรื่องการสื่อสารแล้วไปหารายได้ด้วย จะต้องดูรายละเอียดเจาะลึกย่อยลงไป

 ตัวอย่างการละเมิดลิขสิทธิ์

เคสของข่าวผู้ผลิตข่าวต่างๆ หรือแม้กระทั่งบางสำนักข่าว บางเว็บไซต์ไปนำภาพในโลกออนไลน์มา เช่น ภาพวิวสวยๆ ที่เสิร์ชหาภาพจาก Google แล้วดึงออกมาทำใส่เว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเอง แต่ปรากฏว่าเจ้าของภาพมาตามเจอ จนเกิดการฟ้องหรือเรียกร้องให้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท หรือหากเป็นรายใหญ่ๆ ก็ถึงหลักล้าน แต่ภาพเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นภาพจากต่างประเทศ “อย่าลืมว่าในโลกออนไลน์เราละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ละเมิดเฉพาะของคนไทย หากของต่างชาติเราไปละเมิดหยิบก๊อปมา เราคิดว่าไม่เป็นไร แต่เขาตระหนักถึงลิขสิทธิ์ตรงนั้น เขาก็ตามหามาฟ้องได้”

p4 p5

การแชร์ต้องระมัดระวังอย่างไรไม่ให้เกิดการ“เหยียดหยาม”ในโซเชียล?

คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปหมิ่นประมาทผู้อื่น การเคารพสิทธิเป็นส่วนสำคัญอยู่แล้ว เพราะทุกคนก็ไม่อยากให้ใครมาหมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิ แม้กระทั่งในสื่อสังคมออนไลน์ก็ไม่ควรไปละเมิดหรือหมิ่นประมาทผู้อื่น

แบบไหนถือเป็นการ“ละเมิดเชิงเหยียดหยาม”?

การเหยียดเพศ เหยียดผิว เหยียดศาสนา เหยียดความคิดความเชื่อของเขาว่าเราดีกว่าเหนือกว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้กระทั่งรสนิยมบางอย่าง บางทีเราอาจจะชอบแบบหนึ่ง คนอื่นอาจจะชอบอีกแบบหนึ่ง “เรื่องรสนิยมที่แตกต่างกันเราต้องเคารพในความแตกต่าง”

p7

จะทำอย่างไรให้คนที่โพสต์คลิปหรือข้อความต่างๆ บนโลกออนไลน์ตระหนักถึงการ“เหยียดหยาม”?

“สังคมไทยยังขาดการเรียนรู้เรื่องการรู้เท่าทันสื่อ” หรือสื่อดิจิทัลที่เข้ามาใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรายังไม่รู้ว่าสิ่งที่เราโพสต์ลงไปกระทบกับคนจำนวนมาก อารมณ์ความรู้สึกของคนโดนกระตุ้นได้ง่ายขึ้น “บางทีเราไปเหยียดว่าเขาเป็นคนชาตินั้นชาตินี้ ในทางกลับกันถ้ามีคนมาบอกว่า เพราะคุณเป็นคนไทยคุณเลยทำอย่างนี้ เรายังรู้สึกไม่ดีว่า เอ๊ะ! ..ทำไมมาเหมารวมอย่างนี้ น่าจะพูดเฉพาะเป็นกรณีไปมากกว่าหรือไม่?” ก็เป็นสิ่งหนึ่งใจเขาใจเรา ถ้าไม่อยากให้คนอื่นมาว่าแบบนี้ เราเองก็อาจจะไม่ต้องทำในลักษณะนั้นในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะสื่อสังคมออนไลน์ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ“เราเข้าไปอยู่ในสังคมออนไลน์ปุ๊บ..เราได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตลอดเวลา เหมือนกับทิ้งรอยเท้าเอาไว้ในโลกดิจิทัล อีก 5-10 ปี เราก็สามารถขุดคุ้ยเจอก็ได้” จะโพสต์จะแชร์อะไรคิดให้ดีก่อน เพราะบางทีโพสต์ลงไปด้วยความสนุกสนาน หรือไม่ได้คิด หรือคิดน้อยไปหน่อย แต่มันมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก แล้วอาจจะย้อนกลับมาหาเราอีกในวันข้างหน้าก็ได้

การโพสต์คลิปข้อความที่เกี่ยวกับ“เด็ก”ต้องระวังอะไรบ้าง?

เด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะ“เด็กอาจจะได้รับผลกระทบในเชิงจิตวิทยาที่ผู้ใหญ่อาจคิดไม่ถึง” ซึ่งบางทีโพสต์ไปแซวเล่นหรือล้อเลียนเด็กเล่นๆ โดยที่ไม่คิดอะไร แต่เด็กอาจคิดก็ได้ หรือวันข้างหน้าเด็กอาจจะได้“รับผลกระทบจากการที่โดนล้อเลียน ถือเป็นการละเมิดอย่างหนึ่ง” เช่น ในหลายๆ ประเทศ การที่จะนำเด็กหรือบุคคลที่เขาไม่ยินยอมมาลงในโลกสื่อสังคมออนไลน์ ยกตัวอย่างแม้กระทั่งถ่ายรูปในสถานีรถไฟแล้วเห็นหน้าคนอื่นอยู่ยังต้องเบลอหน้าเขา ถึงแม้ว่าจะถ่ายอยู่เฉยๆ เพราะเขาถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เขาอาจจะไม่อยากให้ใครเห็นหรือรู้ว่าเขามาที่นี่ก็ได้ หรือยกตัวอย่าง Google maps เห็นอะไรต่างๆ ในพื้นที่บางพื้นที่ถ่ายให้เห็นหน้าคนยังต้องเบลอหน้าหรือเบลอทะเบียนรถด้วย อันนี้ก็ถือเป็นการละเมิดพื้นที่ส่วนตัวอย่างหนึ่ง

p8 p9

สื่อฯ ควรระมัดระวังเรื่องใดบ้างในการนำเสนอ?

หากเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อคนจำนวนมาก สื่อมวลชนยิ่งต้องมีความละเอียดรอบคอบและกลั่นกรองมากขึ้นหากจะหยิบยกประเด็นใดหรือภาพใดภาพหนึ่งมานำเสนอ ต้องคำนึงว่าจะมีผลกระทบกับคนอื่นในสังคมมากน้อยเพียงใด

แนวทางต่อไปจะมีการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ส่วนไหนบ้าง?

เน้นเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงสิทธิ การเรียกร้องสิทธิของตัวเองเมื่อถูกระเมิดว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ “ดร.มานะ” แนะนำว่าหากนำข้อมูลอะไรในโลกออนไลน์มาใช้ควร“อ้างอิง”ถึงที่มา หรือควรตรวจสอบให้ดีว่าเป็นข้อมูลที่เจ้าของยินยอมที่จะให้เปิดเผยโดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์หรือไม่ บางข้อมูลที่เจ้าของพร้อมเปิดเผยก็จะระบุไว้ชัดเจนว่าสามารถนำมาใช้ได้ หรือบางรูปเจ้าของจะประกาศไว้ในเว็บว่าสามารถนำไปใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่โดยทั่วไปหากนำเอาข้อมูลของคนอื่นมาก็ควรบอกว่านำมาจากที่ไหน

p10

ในยุคที่สื่อออนไลน์ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมาก อนาคตคงจะมีกลวิธีในการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เรายังคาดไม่ถึงอีกมาก การเรียนรู้กฎหมายลิขสิทธิ์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักสร้างสรรค์จะใช้เพื่อการยับยั้งการทำลายมูลค่าของความคิดได้ ชาวเน็ตเมื่อเข้าไปในสื่อสังคมออนไลน์เราได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะโพสต์หรือแชร์อะไร นอกจากจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ควรตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดหรือเกิดการเหยียดหยามในโลกออนไลน์เช่นที่ผ่านมา

• ทีมกองบรรณาธิการ NEW MEDIA สำนักข่าวไทย รายงาน •

เพิ่มเพื่อน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี