นักวิชาการแนะคิดก่อนโพสต์-แชร์ อาจละเมิดสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว


กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – ครบรอบ 1 ปี สำหรับ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ หลังมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2558 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองผู้สร้างสรรค์ผลงานทุกประเภท ทั้งบทความ หนังสือ ซอฟต์แวร์ เพลง รูปภาพ ภาพวาด ภาพข่าว รวมถึงภาพยนตร์ และป้องกันผู้ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากงานนั้น พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้กำหนดโทษไว้ชัดเจน และมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น สำนักข่าวไทย มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ” ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ ” คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หลังจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ มา 1 ปีแล้ว

p11 p1


การบังคับใช้“กฎหมายลิขสิทธิ์”ครบรอบ 1 ปีเป็นอย่างไรบ้าง?

มีคนจำนวนไม่น้อยยังไม่ทราบหรือตระหนักถึงปัญหาลิขสิทธิ์ คิดว่าทุกอย่างบนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นรูป ข้อความ หรือข้อมูล สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งทำรายงานหรือนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ และมีประชาชนที่อาจไม่รู้หรือไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก เมื่อโดนละเมิดก็ไม่สนใจไปติดตาม แต่เริ่มมีมากขึ้นจากคนที่รู้กฎหมายรู้ดีว่าตัวเองมีสิทธิ์ในเนื้อหาข้อมูล หรือแม้กระทั่งส่วนที่เป็นภาพของตัวเองก็มีการติดตามมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้มีหลายคดีเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดใช้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลภาพ ข้อมูลเสียง หรือข้อมูลต่างๆ เริ่มมีออกมาแต่ว่าอาจยังไม่เป็นที่ปรากฏมากนัก เพราะประชาชนจำนวนหนึ่งอาจยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้มากนัก

 การรับรู้เรื่อง“กฎหมายลิขสิทธิ์”เพิ่มมากขึ้นไหม?


“เรื่องนี้คนยังไม่สนใจมากนักยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์สื่อสารถึงประชาชน” แต่มีคนบางกลุ่มที่ทำงานในเชิงแนวคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป หรือตัวเนื้อหาต่างๆ แล้วโดนละเมิดลิขสิทธิ์ เริ่มตระหนักว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะใช้ตัวกฎหมายให้เป็นประโยชน์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ผลิตข่าวออนไลน์ในสำนักข่าวมาตรฐานต่างๆ เขารวมตัวกันในนามของสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ พูดถึงผู้ที่ละเมิดนำข่าวของเขาไปลงแล้วไปหารายได้ที่ไปติดโฆษณาใน Google หรือในส่วนอื่นๆ บางแห่งนำไปผลิตเป็นแอพพลิเคชั่นขายให้โหลดในแอปเปิล แล้วดึงฟีดข่าวของสำนักข่าวต่างๆ ไป จึงทำให้มีการรวมตัวฟ้องร้องทั้งในเชิงของเว็บไซต์  และฟ้องร้องในตัวที่เป็นต้นทางของ Google โดยใช้ตัวกฎหมายเหล่านี้เรียกร้องสิทธิของตัวเองเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น

 แนวทางการแก้ไขปัญหา?

“บ่มเพาะตั้งแต่เด็กๆ” ตอนเรียนหนังสือที่ผ่านมาเราอาจยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อย เด็กอาจจะไปลอกหนังสือมาจากเล่มโน้นเล่มนี้ก็เอามาได้ไม่เป็นไรโดยไม่มีการอ้างอิง แต่ในต่างประเทศไม่ได้ ถ้าไปเอาข้อมูลใดมาก็ตาม ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเอามาจากที่ไหน หากนำมาแล้วไม่อ้างอิงถึงอาจโดนฟ้องร้องได้ “เป็นการฝึกตั้งแต่เด็กให้เคารพสิทธิ์ของผู้อื่นให้เกียรติต้นทาง” และหากนำไปทำในเชิงธุรกิจต้องคำนึงด้วยว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับคนที่ไปเอาผลงานเขามาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา รูปภาพ  คลิปต่างๆ

ลิขสิทธิ์”คุ้มครองอะไรบ้างที่สามารถนำไปใช้โดยไม่ต้องขออนุญาต?

ต้องดูรายละเอียดหลายๆ อย่าง เช่น ถ้านำไปใช้เพื่อการศึกษา เขาอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไร แต่หากนำไปใช้เรื่องการสื่อสารแล้วไปหารายได้ด้วย จะต้องดูรายละเอียดเจาะลึกย่อยลงไป

 ตัวอย่างการละเมิดลิขสิทธิ์

เคสของข่าวผู้ผลิตข่าวต่างๆ หรือแม้กระทั่งบางสำนักข่าว บางเว็บไซต์ไปนำภาพในโลกออนไลน์มา เช่น ภาพวิวสวยๆ ที่เสิร์ชหาภาพจาก Google แล้วดึงออกมาทำใส่เว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเอง แต่ปรากฏว่าเจ้าของภาพมาตามเจอ จนเกิดการฟ้องหรือเรียกร้องให้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท หรือหากเป็นรายใหญ่ๆ ก็ถึงหลักล้าน แต่ภาพเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นภาพจากต่างประเทศ “อย่าลืมว่าในโลกออนไลน์เราละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ละเมิดเฉพาะของคนไทย หากของต่างชาติเราไปละเมิดหยิบก๊อปมา เราคิดว่าไม่เป็นไร แต่เขาตระหนักถึงลิขสิทธิ์ตรงนั้น เขาก็ตามหามาฟ้องได้”

p4 p5

การแชร์ต้องระมัดระวังอย่างไรไม่ให้เกิดการ“เหยียดหยาม”ในโซเชียล?

คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปหมิ่นประมาทผู้อื่น การเคารพสิทธิเป็นส่วนสำคัญอยู่แล้ว เพราะทุกคนก็ไม่อยากให้ใครมาหมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิ แม้กระทั่งในสื่อสังคมออนไลน์ก็ไม่ควรไปละเมิดหรือหมิ่นประมาทผู้อื่น

แบบไหนถือเป็นการ“ละเมิดเชิงเหยียดหยาม”?

การเหยียดเพศ เหยียดผิว เหยียดศาสนา เหยียดความคิดความเชื่อของเขาว่าเราดีกว่าเหนือกว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้กระทั่งรสนิยมบางอย่าง บางทีเราอาจจะชอบแบบหนึ่ง คนอื่นอาจจะชอบอีกแบบหนึ่ง “เรื่องรสนิยมที่แตกต่างกันเราต้องเคารพในความแตกต่าง”

p7

จะทำอย่างไรให้คนที่โพสต์คลิปหรือข้อความต่างๆ บนโลกออนไลน์ตระหนักถึงการ“เหยียดหยาม”?

“สังคมไทยยังขาดการเรียนรู้เรื่องการรู้เท่าทันสื่อ” หรือสื่อดิจิทัลที่เข้ามาใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรายังไม่รู้ว่าสิ่งที่เราโพสต์ลงไปกระทบกับคนจำนวนมาก อารมณ์ความรู้สึกของคนโดนกระตุ้นได้ง่ายขึ้น “บางทีเราไปเหยียดว่าเขาเป็นคนชาตินั้นชาตินี้ ในทางกลับกันถ้ามีคนมาบอกว่า เพราะคุณเป็นคนไทยคุณเลยทำอย่างนี้ เรายังรู้สึกไม่ดีว่า เอ๊ะ! ..ทำไมมาเหมารวมอย่างนี้ น่าจะพูดเฉพาะเป็นกรณีไปมากกว่าหรือไม่?” ก็เป็นสิ่งหนึ่งใจเขาใจเรา ถ้าไม่อยากให้คนอื่นมาว่าแบบนี้ เราเองก็อาจจะไม่ต้องทำในลักษณะนั้นในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะสื่อสังคมออนไลน์ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ“เราเข้าไปอยู่ในสังคมออนไลน์ปุ๊บ..เราได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตลอดเวลา เหมือนกับทิ้งรอยเท้าเอาไว้ในโลกดิจิทัล อีก 5-10 ปี เราก็สามารถขุดคุ้ยเจอก็ได้” จะโพสต์จะแชร์อะไรคิดให้ดีก่อน เพราะบางทีโพสต์ลงไปด้วยความสนุกสนาน หรือไม่ได้คิด หรือคิดน้อยไปหน่อย แต่มันมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก แล้วอาจจะย้อนกลับมาหาเราอีกในวันข้างหน้าก็ได้

การโพสต์คลิปข้อความที่เกี่ยวกับ“เด็ก”ต้องระวังอะไรบ้าง?

เด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะ“เด็กอาจจะได้รับผลกระทบในเชิงจิตวิทยาที่ผู้ใหญ่อาจคิดไม่ถึง” ซึ่งบางทีโพสต์ไปแซวเล่นหรือล้อเลียนเด็กเล่นๆ โดยที่ไม่คิดอะไร แต่เด็กอาจคิดก็ได้ หรือวันข้างหน้าเด็กอาจจะได้“รับผลกระทบจากการที่โดนล้อเลียน ถือเป็นการละเมิดอย่างหนึ่ง” เช่น ในหลายๆ ประเทศ การที่จะนำเด็กหรือบุคคลที่เขาไม่ยินยอมมาลงในโลกสื่อสังคมออนไลน์ ยกตัวอย่างแม้กระทั่งถ่ายรูปในสถานีรถไฟแล้วเห็นหน้าคนอื่นอยู่ยังต้องเบลอหน้าเขา ถึงแม้ว่าจะถ่ายอยู่เฉยๆ เพราะเขาถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เขาอาจจะไม่อยากให้ใครเห็นหรือรู้ว่าเขามาที่นี่ก็ได้ หรือยกตัวอย่าง Google maps เห็นอะไรต่างๆ ในพื้นที่บางพื้นที่ถ่ายให้เห็นหน้าคนยังต้องเบลอหน้าหรือเบลอทะเบียนรถด้วย อันนี้ก็ถือเป็นการละเมิดพื้นที่ส่วนตัวอย่างหนึ่ง

p8 p9

สื่อฯ ควรระมัดระวังเรื่องใดบ้างในการนำเสนอ?

หากเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อคนจำนวนมาก สื่อมวลชนยิ่งต้องมีความละเอียดรอบคอบและกลั่นกรองมากขึ้นหากจะหยิบยกประเด็นใดหรือภาพใดภาพหนึ่งมานำเสนอ ต้องคำนึงว่าจะมีผลกระทบกับคนอื่นในสังคมมากน้อยเพียงใด

แนวทางต่อไปจะมีการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ส่วนไหนบ้าง?

เน้นเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงสิทธิ การเรียกร้องสิทธิของตัวเองเมื่อถูกระเมิดว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ “ดร.มานะ” แนะนำว่าหากนำข้อมูลอะไรในโลกออนไลน์มาใช้ควร“อ้างอิง”ถึงที่มา หรือควรตรวจสอบให้ดีว่าเป็นข้อมูลที่เจ้าของยินยอมที่จะให้เปิดเผยโดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์หรือไม่ บางข้อมูลที่เจ้าของพร้อมเปิดเผยก็จะระบุไว้ชัดเจนว่าสามารถนำมาใช้ได้ หรือบางรูปเจ้าของจะประกาศไว้ในเว็บว่าสามารถนำไปใช้ได้ไม่มีปัญหา แต่โดยทั่วไปหากนำเอาข้อมูลของคนอื่นมาก็ควรบอกว่านำมาจากที่ไหน

p10

ในยุคที่สื่อออนไลน์ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมาก อนาคตคงจะมีกลวิธีในการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เรายังคาดไม่ถึงอีกมาก การเรียนรู้กฎหมายลิขสิทธิ์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักสร้างสรรค์จะใช้เพื่อการยับยั้งการทำลายมูลค่าของความคิดได้ ชาวเน็ตเมื่อเข้าไปในสื่อสังคมออนไลน์เราได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะโพสต์หรือแชร์อะไร นอกจากจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ควรตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดหรือเกิดการเหยียดหยามในโลกออนไลน์เช่นที่ผ่านมา

• ทีมกองบรรณาธิการ NEW MEDIA สำนักข่าวไทย รายงาน •

เพิ่มเพื่อน

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิกพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]