ภูเก็ต 11 ก.ค.- ทีมประดาน้ำกองทัพเรือเจออุปสรรคคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ยุติภารกิจภาคบ่าย แม้ยังกู้ร่างผู้เสียชีวิตใต้ท้องเรือฟินิกซ์ล่มเกาะเฮไม่ได้ แต่สามารถผูกเชือกไกด์ไลน์เรียบร้อย ด้านรองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ปรับแผนเตรียมย้ายอุปกรณ์ดูดทรายลงเรือลำเดียว
ความคืบหน้าในภารกิจของทีมประดาน้ำกองทัพเรือ รวมทั้งกู้ภัยหลายหน่วยและจากจีนออกเดินทางช่วงเช้า (11 ก.ค.) ยังไปจุดเรือฟินิกซ์ล่มบริเวณเกาะเฮ เพื่อกู้ร่างผู้เสียชีวิตใต้ท้องเรือ ล่าสุดช่วงบ่ายนักประดาน้ำทัพเรือ (ทีมสคูบา) ที่นำเรือยางไปยังจุดเรือฟินิกซ์ล่มบริเวณเกาะเฮ เพื่อดำน้ำลงไปผูกเชือกไกด์ไลน์ขนาดใหญ่กับตัวเรือสำหรับให้ทีมดำน้ำ Surface (เป็นทีมดำน้ำใช้อุปกรณ์ดำน้ำลึกแบบครอบหัวต่อสายลงไปไม่ใช้ถัง) ไต่ลงไปได้นั้น เดินทางกลับมายังเรือหลวงทองหลาง พร้อมรายงานนาวาเอกธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้ควบคุมการปฏิบัติในการดำน้ำกู้ร่างผู้เสียชีวิตว่าสามารถผูกเชือกไกด์ไลน์เส้นใหม่สำเร็จแล้ว แต่ไม่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ เนื่องจากคลื่นลมแรงมากเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
นาวาเอกธานินทร์ กล่าวว่า สภาพท้องทะเลมีคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ทำให้ทีม Surface ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้วางแผนไว้ เนื่องจากไม่สามารถให้เรือหลัก คือ เรือหลวงทองหลางให้นิ่งได้ เสี่ยงจะพัดออกจากจุดที่กำหนด และยังมีแนวโน้มที่คลื่นจะแรงขึ้น ขณะเดียวกันไม่สามารถนำเรือหลวงปันหยีที่เป็นเรือให้กำลังของปั้มลมเพื่อดูดทรายใต้น้ำรอบตัวเรือที่จมเข้าเทียบกับเรือหลวงทองหลาง จึงต้องเปลี่ยนเเผนที่จะนำอุปกรณ์ให้กำลังลมมาอยู่ในเรือลำเดียวที่เรือหลวงทองหลาง เเต่ทั้งนี้จะต้องเข้าจอดเทียบท่าก่อน เพื่อเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดมาลงเรือหลวงทองหลาง ซึ่งต้องใช้เครนขนาดใหญ่ยก จึงจำเป็นต้องยุติภารกิจการกู้ร่างผู้สูญหายในภาคบ่ายและเดินทางกลับเข้าฝั่ง อย่างไรก็ตาม ทีมนักประดาน้ำที่ได้ดำลงไปยืนยันว่าร่างผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในจุดเดิม.-สำนักข่าวไทย