สำนักข่าวไทย 6 ก.ค.-จิตแพทย์ ชี้สังคมไม่ควรกล่าวโทษเด็กและโค้ช กรณี มีอดีตนายทหารหน่วยซีลเสียชีวิตขณะให้ความช่วยเหลือ ย้ำเป็นเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แนะบอกความจริงกับเด็กเพื่อให้เข้าใจกระบวนการช่วยเหลือจากนี้ เพื่อปรับสภาพจิตใจให้สอดคล้องความจริง หากมีการช่วยเหลือล่าช้า เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องจำเป็นทั้งคนช่วยเหลือ และคนรับการช่วยเหลือ
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีจ่าเอกสมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ อายุ 38ปี ตำแหน่งงานเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัทท่าอากาศยานไทยเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า เรื่องนี้ ไม่อยากให้สังคมโทษ 13 ทีมหมูป่าอะคาเดมี เพราะเชื่อทั้งโค้ช และเด็ก ต่างรู้สึกผิดกันอยู่แล้ว อย่าได้ซ้ำเติม เพราะไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นเหตุสุดวิสัย และเชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องหาทางเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดี ตอนนี้สังคมไทย ยังคงต้องการความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนเดิม ไม่ควรซ้ำเติม หรือให้ความคิดเห็นที่แตกแยกออกไป
นพ.ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่กระแสสังคมแตกแยกและเห็นว่าไม่ควรบอกความจริงกับเด็กและโค้ชภายในถ้ำเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นว่า ความจริงเป็นสิ่งที่ควรบอกเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันต้องประคับประคองจิต เพราะการไม่บอกเหตุผลหรือความจริงเลย หากการช่วยเหลือ ล่าช้าลงเด็กอาจไม่เข้าใจ และในทุกความช่วยเหลือ สิ่งสำคัญคือเรื่องของความปลอดภัย ทั้งผู้ให้ความช่วยเหลือ และผู้รับความช่วยเหลือ เพื่อให้จิตใจได้ปรับให้สอดคล้องกับความจริงมากที่สุด
นพ.ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้สังคมควรมองภาพให้ออก ในความเป็นจริง ขณะเดียวกันรักษาความหวังของแต่ละฝ่ายเอาไว้ให้สมดุล โดยการเผชิญกับเหตุวิกฤต สิ่งที่ต้องมี 1. ความปลอดภัย ต้องมีทั้งคนช่วยเหลือ และคนรับการช่วยเหลือ 2.ช่วยเหลือด้วยความสงบ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบจนเกินไป 3.ต้องรักษาความหวังของทุกฝ่าย เพื่อเป็นพลังใจ อย่าตำหนิ กล่าวโทษกัน 4. ต้องผลึกกำลังกันทั้งเจ้าหน้าที่ และญาติ เด็ก หรือโค้ช เพื่อนำตัวเองผ่านพ้นวิกฤติ ปัญหาทุกอย่างเป็นบทเรียนเพื่อหาทางป้องกัน -สำนักข่าวไทย