สกลนคร 18 มิ.ย.-สลด เชือกที่นอนรัดคอเด็กชายวัย 2 ขวบเสียชีวิต ขณะรอผู้ปกครองมารับที่ศูนย์เด็กเล็ก จ.สกลนคร ด้านพ่อแม่ยอมรับไปรับลูกช้าทำเกิดเหตุสลด ฝากเป็นอุทาหรณ์
นายมงคล จำวงศ์สา บิดาน้องคิน กล่าวทั้งน้ำตาและยังทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ วันเกิดเหตุคือบ่ายวันศุกร์ ที่ 8 มิ.ย. 61 ทราบเรื่องราวจาก เจ้าหน้าที่ดูแลศูนย์เล่าว่าลูกชายของตนเองนั้นรอผู้ปกครองมารับ โดยเตรียมถุงนอนเพื่อจะเอากลับไปยังบ้าน แต่ขณะนั้นยังทำงานอยู่ไม่สะดวกไปรับลูกชาย เลยต้องอยู่รอภายในศูนย์ ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่อีกคนที่ดูแลเด็กอีกห้องผ่านมาเห็นห้องที่ลูกชายอยู่เหลือเด็กประมาณ 3 คน แล้วผิดสังเกตว่า เวลา 15.00 น. เด็กควรจะกลับบ้านแล้วแต่ลูกชายของตนเองยังหลับอยู่จึงพากันเรียกครูอีกคนที่รอส่งเด็กด้านนอกอยู่รีบเข้าไปดู ปรากฏว่าพบเชือกที่นอนพันคอที่ตัวเด็กจนแน่นิ่งไม่หายใจแล้ว จึงมีการปั้มหัวใจฟื้นคืนมาแต่ไม่รู้สึกตัวแล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสกลนคร แต่ด้วยน้องขาดอากาศหายใจนานจนสมองตาย เช้าวันที่ 14 มิ.ย.61 ได้เสียชีวิตลง
นายมงคล บิดาน้องคิน กล่าวอีกว่า เบื้องต้นยอมรับว่าพากันไปรับลูกช้า ซึ่งปกติเด็กเตรียมอนุบาลควรจะไปรับก่อน 15.00 น. แต่ติดงานอยู่ พอทราบอีกทีลูกก็เข้าโรงพยาบาลแล้ว เรื่องนี้ในด้านกฎหมายทางครอบครัวได้ไปแจ้งความไว้ว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานแต่ยังไม่ได้เอาความใดๆ กับใคร ขอปรึกษากันก่อน เพราะคงเป็นเหตุสุดวิสัย ถ้าถามหาภาพเหตุการณ์ก็คงไม่มี เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลห้องลูกชายก็ยอมรับว่าพลั้งพลาดไปที่ไม่ดูแลให้ดี ส่วนตัวลูกชายคงไร้เดียงสาก็อาจเอาที่นอนซึ่งเตรียมจะเอากลับบ้านขึ้นมาคล้องคอแล้วหมุนเล่นไปมาจนพันเข้าที่คอรัดแน่นแล้วไม่มีใครเห็น ส่วนเด็กๆ ร่วมห้องเห็นว่าลูกตนเองกลิ้งไปมาจนแน่นิ่งไปคิดว่าไม่ได้เป็นอะไร ดังนั้นจึงฝากเป็นอุทาหรณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามทั้งผู้ปกครองเองควรไปรับลูกก่อนเวลา รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์เด็กเล็กแห่งอื่นๆ ด้วยต้องใส่ใจมากกว่านี้
นางสาวอุทร พองพรม มารดาแม่น้องคินกล่าวว่า มีลูก 2 คน น้องคินเป็นคนสุดท้อง กำลังน่ารัก ฉลาด แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องสูญเสียลูกชายไปเร็วขนาดนี้ เห็นใจกันทุกฝ่ายคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ตอนนี้ติดความในใจอะไรไหมก็อยากให้จบลงด้วยดี เพราะตัวคนที่ดูแลลูกชายก็เสียใจอย่างมาก เขาดูแลทุกอย่างตั้งแต่ไปเฝ้าลูกชายที่โรงพยาบาลทุกวัน กระทั่งจัดงานศพจนแล้วเสร็จ ส่วนผู้บังคับบัญชาทางนายกเทศบาลตำบลกุดแฮด ก็จะดำเนินการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับยินดีรับผิดชอบค่าใช่จ่ายทุกอย่างและการเยียวยา ซึ่งเย็นวันนี้ทางครอบครัวกำลังจะปรึกษากันว่าจะเอาอย่างไรดีเรื่องข้อเสนอในการเยียวยา แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่คงแลกไม่ได้กับการสูญเสียบุตรชายที่จากไป.-สำนักข่าวไทย