พิษณุโลก 17 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีคนร้ายข่มขืนหญิงสาวและมีพลเมืองดีช่วยเหลือ ที่บริเวณใต้สะพานลอยนเรศวร หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หลังจากรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ในที่เกิดเหตุพบ นายสัญญา หล่อเนาวรัตน์ อายุ 30 ปี และภรรยา กำลังช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ที่ถูกคนร้ายข่มขืน ที่บริเวณปากท่อระบายน้ำ โดย น.ส.เอ มีสภาพที่ศีรษะแตก และฟันหัก เนื่องจากถูกของแข็งจนได้รับบาดเจ็บ
นางสาวเอ (นามสมมุติ) ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบสะบัคสะบอม ว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นได้มานั่งเล่นที่บริเวณริมน้ำหน้าวัดใหญ่ จากนั้นนายสมชาย เย็นจิตร หรือ หมึก อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/6 หมู่ 3 ต.ป่าเซา อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งขณะนั้นกำลังเมา มาพูดหลอกล่อตนเอง และพยายามจะข่มขืน แต่ตนเองได้เดินหนี มาบริเวณใต้สะพาน นายหมึก ก็กลับถูกทำร้ายร่างกาย โดยนายหมึกได้ใช้ขวดเหล้าขาวตีที่หัว ตนเองได้รับบาดเจ็บ แล้วลากตนเองไปที่ท่อทะบายน้ำใต้สะพาย แล้วบีบคอไม่ให้พูด พร้อมกับแก้กางเกง แล้วข่มขืน ในขณะนี้ตนเองเห็นคนหาปลาผ่านมาก็พยาบาลร้องขอความช่วยเหลือ จนในที่สุดนายหมึก ก็ตกใจรีบวิ่งหนีเข้าไปในท่อระบายน้ำ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส. เอ ไปทำการตรวจร่างกายที่ รพ.พุทธชินราช ทันที อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 1 ชุด ได้เฝ้าปากท่อระบายน้ำ นานกว่า 30 นาที นายสมชาย ได้โผล่ออกมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตะโกนเรียกว่าให้ออกมา แต่นายหมึก กลับย้อนไปในท่อระบายน้ำอีกครั้ง
ต่อมา พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งหาตัวคนร้ายออกมาจากท่อระบายน้ำโดยเร็วที่สุด เนื่องจากภายในท่อระบายน้ำมีแต่กลิ่นเหม็นและอับอากาศ หวั่นเกรงว่าคนร้ายจะขาดอากาศหายใจ จึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ประปาเทศบาลนครพิษณุโลก เพื่อให้นำเครื่องออกซิเจน เข้าไปดูนายสมชาย ตามท่อระบายน้ำได้ ทั้งการส่องไฟตามท่อ หรือเดินเข้าไปในท่อระบายน้ำในรัศมีกว่า 100 ทิศ ตามทิศทางของท่อ ใช้เวลานานกว่า 3 ชม. ก็ยังไม่เจอตัว ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกการค้นหา และรอค้นหาใหม่ในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเฝ้าปากท่อระบายน้ำไว้ หวั่นว่า นายสมชาย จะกลับมาออกปากท่ออีกครั้ง
ต่อมา เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 17 มิ.ย. ร.ต.อ.วิรัตน์ โมสกุล รอง สวป.สภ.เมืองพิษณุโลก กับพวกรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลก ว่าพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งว่ามีผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายวิ่งจากท็อปแลนด์พลาซ่าไปทางตึกร้างฝั่งตรงข้าม จึงไล่ติดตามเพื่อตรวจสอบ จนเห็นผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าววิ่งลงไปในแม่น้ำน่านหน้าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรีแล้วลอยคอว่ายน้ำข้ามฝั่งไปฝั่งตะวันตกด้านหน้าโรงแรมวังจันทร์ริเวอร์วิว จึงร่วมกันจับกุมตัวพบว่าคือ นายสมชาย เย็นจิตร หรือ หมึก อายุ 44 ปี
นายสมชายให้การว่า ตั้งแต่เย็นตนดื่มสุราขาวมาแล้วมาพบ น.ส.ก้อย นั่งอยู่คนเดียวที่ริมตลิ่งหน้าวัดใหญ่ช่วงหัวค่ำ เลยขอซื้อบริการในราคา 150 บาท น.ส.เอ ตกลงจึงพาไปที่ปากท่อระบายน้ำ หลังจากร่วมเพศกันตนไม่สำเร็จความใคร่จึงขอเงินคืน แต่ น.ส.เอ ไม่ยินยอมจึงชกไป 3 ครั้ง น.ส.เอ จึงร้องให้คนช่วยตนตกใจจึงหลบหนีไปตามท่อระบายน้ำ ก่อนจะไปขึ้นท่อเหล็กระบายน้ำบริเวณหน้าท็อปแลนด์พลาซ่า แล้ววิ่งข้ามมาทางตึกร้างจากนั้นก็วิ่งเข้าถนนกลางโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรีแล้วลงแม่น้ำน่าน ว่ายข้ามฝั่งมากระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของนายสมชาย เพราะเคยถูกจับคดีข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี ที่อุตรดิตถ์แล้วถูกส่งตัวมาจำคุกที่เรือนจำกลางพิษณุโลกเมื่อปี 2551 ก่อนที่จะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 จึงควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เจ้าของคดี เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย