สำนักงานกกต. 15 มิ.ย.-ประธานกกต.ระบุเลือกตั้งขึ้นกับความพร้อมของกฎหมาย-สถานการณ์ ชี้นายกฯ-คสช.มีแนวทางคลายล็อคให้พรรคการเมืองประชุม-หาสมาชิก
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงผลการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งและการทำไพรมารีโหวตของพรรคการเมืองร่วมกับรัฐบาลวานนี้(14 มิ.ย.) ว่า กกต.ชี้แจงถึงปัญหาที่พรรคการเมืองติดขัด ซึ่งเกี่ยวข้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 53/2560 ว่ามีเรื่องใดที่พรรคการเมืองสามารถทำได้ก่อน ระหว่างรอพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ใช้บังคับ และขอให้รัฐบาลพิจารณาให้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งได้เมื่อพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ประกาศในราชกิจานุเบกษา
ประธานกกต. กล่าวว่า กกต.คิดว่าจะใช้เวลารับฟังความคิดเห็น ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ ไม่ทำไม่ได้ แม้รัฐบาลจะมองว่าอาจเข้าข่ายเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง รัฐบาลจะพิจารณาหาวิธีการเพื่อให้กกต.รับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชนได้ โดยจะไม่ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 และประกาศคสช.ที่ 57/2557 เมื่อได้ข้อมูลแล้ว กกต.จะวินิจฉัยว่าจะเลือกใช้รูปแบบใดในแต่ละเขต รวมใช้เวลาประมาณ 50 วัน ซึ่งพรรคการเมืองจะมีข้อมูลในส่วนนี้เพื่อไปทำเรื่องไพรมารีโหวตที่คาดว่าพรรคจะมีเวลา 35 วัน ซึ่งคิดว่าพรรคที่มีความพร้อมและมีศักยภาพจะสามารถทำได้ ซึ่งรวมแล้วจะใช้เวลา 85 วัน จะเหลือ 5 วันก่อนกฎหมายมีผลใช้บังคับ
“ไม่กังวลเรื่องที่พรรคจะไปแย่งกันหาสมาชิกพรรคให้ครบ 500 คน เพื่อทำไพรมารีโหวต เพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศมีประมาณ 45 ล้านคน ถ้าพรรคการเมืองจะมาคิดเรื่องแย่งสมาชิกก็เป็นความคิดที่สุดโต่ง ดังนั้น พรรคต้องสร้างความศรัทธาให้ประชาชนมาสมัครเป็นสมาชิก ขณะที่ประชาชนต้องเห็นความสำคัญของการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง” นายศุภชัย กล่าว
ประธานกกต. กล่าวว่า ในส่วนของคำสั่ง 53/2560 รัฐบาลจะแก้ไขให้พรรคสามารถดำเนินการได้บางเรื่อง เช่น จัดประชุมเพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค ประกาศอุดมการณ์ จัดหาสมาชิก เพราะปัจจุบันองค์ประกอบของการประชุมที่มีอยู่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องให้หัวหน้าสาขาพรรคเป็นองค์ประชุม ซึ่งทางกฤษฎีกาจะไปดูรายละเอียดเหล่านี้และยกร่างการแก้ไขคำสั่งดังกล่าวเสนอรัฐบาล และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับนายกรัฐมนตรีและคสช. ส่วนจะแก้ไขเมื่อใดอย่างไร เป็นอำนาจของคสช. ซึ่งนายวิษณุระบุแล้วว่ามีแนวทางคือออกเป็นพระราชกำหนด(พรก.) พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) และใช้มาตรา 44
“ในการหารือ การเลือกตั้งยังคงเป็นไปตามโรดแมป ยังไม่เลื่อน แต่อาจจะขยับปรับเปลี่ยนบ้าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนจะเกิดการเลือกตั้งอะไรก่อนขึ้นอยู่กับว่ากฎหมายใดมีผลบังคับใช้ก่อน โดยในที่ประชุมได้ซักถามความคืบหน้าของกฎหมายแต่ละฉบับ ซึ่งกฎหมายส.ส.และส.ว.อยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนกฎหมายท้องถิ่น คณะกรรมการกฤษฎีกายกร่างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น และจะนำเสนอสนช.พิจารณา ซึ่งคาดการณ์ว่าสนช.จะใช้เวลาพิจารณา 60-90 วัน เนื่องจากจะมีกฎหมายของแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าพิจารณาด้วยรวม 6 ฉบับ ในส่วนของ กกต. ชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่าหากจะเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นควรจะเว้นระยะห่างกันประมาณ 3 เดือน เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นมีเรื่องร้องเรียนมาก และกำลังคนของกกต.มีจำกัด” นายศุภชัย กล่าว.- สำนักข่าวไทย
