ทีดีอาร์ไอเสนอเก็บค่าแท็กซี่ตามเวลาเดินทาง

รร.รามาการ์เด้น 14 มิ.ย. – กรมการขนส่งทางบกจับมือทีดีอาร์ไอแจงผลศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคารถแท็กซี่  มีข้อเสนอปรับขึ้นค่าโดยสารตามเวลาการเดินทางแทนคำนวณมิเตอร์ช่วงรถติด ขณะที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ยันขอปรับค่าโดยสารร้อยละ 10 เพื่อให้อยู่รอดและแก้ปัญหาปฏิเสธผู้โดยสาร



กรมการขนส่งทางบกร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาพัฒนาเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการรถแท็กซี่  โดยนายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานเปิดงานและกล่าวถึงผลการศึกษาที่กรมฯ มอบหมายให้ทีดีอาร์ไอศึกษา โดยยืนยันว่าค่าโดยสารเมื่อทีดีอาร์ไอสรุปผลส่งให้กรมฯ คาดว่าจะมีการดำเนินการเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นจะรวบรวมเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในฐานะฝ่ายนโยบาย เพื่อดำเนินการต่อไป 


ส่วนประเด็นปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวยังมี แต่เชื่อว่าหลังจาก พ.ร.บ.ขนส่งฉบับใหม่ที่รวม พ.ร.บ.รถยนต์และ พ.ร.บ.ขนส่งไว้ด้วยกันจะมีมาตรากำหนดให้ผู้ประกอบการเจ้าของอู่หรือสหกรณ์แท็กซี่ต้องเป็นผู้ประกอบการตามกฎหมายที่ขอใบอนุญาต หากปล่อยให้รถในสังกัดผิดกฎหมายหรือปฏิเสธผู้โดยสารบ่อยครั้งจะมีบทลงโทษชัดเจน เชื่อว่าจะทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลง อยู่ระหว่างการพิจาณณาขั้นสุดท้ายของ สนช.

นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงผลศึกษาว่า เบื้องต้นการปรับขึ้นค่าโดยสารยืนยันว่าอาจจะมีปัญหาการยอมรับ เนื่องจากการบริการในปัจจุบันรวมทั้งการปรับขึ้นค่าโดยสารไม่เป็นการการันตีว่าปัญหาปฏิเสธผู้โดยสารจะหมด จึงต้องใช้กลไกด้านอื่นรวมถึงบังคับใช้กฎหมาย ส่วนโครงสร้างราคาที่ศึกษานั้น พบข้อมูลว่าปัจจุบันการปรับค่าโดยสารทำได้หลายแบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ  ผู้ประกอบการจะต้องมีรายได้เฉลี่ยอย่างน้อย 1,600 บาทต่อวัน จึงจะคุ้มทุนต่อการดำเนินการ ส่วนการปรบขึ้นค่าโดยสารในส่วนมิเตอร์เริ่มต้น 35 บาท เห็นว่าไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นในส่วนนี้ ขณะที่การเก็บค่าโดยสารตามระยะทาง ปัจจุบันการจัดเก็บมีอัตราเอื้อต่อการประกอบอาชีพอยู่แล้ว 

ส่วนการปรับขึ้นที่เห็นว่าสามารถดำเนินการได้เหมาะสม คือ การเก็บค่าโดยสารตามมิเตอร์สำหรับอัตราที่รถติด ปัจจุบันตามกฎหมายกำหนดความเร็วของรถติดที่นำมาคำนวณค่าโดยสารกำหนด 6 กม.ต่อ ชม.ทีดีอาร์ไอเห็นว่าสามารถยกเลิก และคำนวณค่าโดยสารตามเวลาการเดินทางแทน เช่น กำหนดให้ใช้อัตราการเดินทาง 1 นาทีต่อ 50 สต. หากเดินทาง 1 ชม.จะเสียค่าโดยสารเพิ่ม 30 บาท เมื่อผู้ขับเดินทางไปพื้นที่รถไม่ติดผู้โดยสารก็จะเสียค่าเดินทางไม่มาก หากไปพื้นที่รถติดผู้ขับรถจะมีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นก็จะเกิดความเป็นธรรม  อย่างไรก็ตาม แนวทางที่เสนอในการประชุมจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้ขับรถแท็กซี่นำมาประกอบการพิจารณาต่อไป


นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลนี้เคยอนุมัติให้แท็กซี่ปรับปรุงบริการเพื่อแลกกับการปรับขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 15 แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกปรับขึ้นร้อยละ 8 เมื่อปรับปรุงบริการเป็นที่น่าพอใจแล้วจะปรับอีกร้อยละ 7 แต่ขณะนี้ร้อยละ 7 ผ่านมา 4 ปีผู้ประกอบการยังไม่ได้รับอนุมัติให้ปรับ  คิดว่าอัตราปรับขึ้นร้อยละ 7 เมื่อพิจารณาตามอัตราค่าครองชีพไม่น่าจะเพียงพอ โดยผู้ประกอบการเห็นว่าอย่างน้อยต้องอนุมัติให้ปรับขึ้นร้อยละ 10 จึงจะสามารถมีรายได้คุ้มกับต้นทุนดำเนินการ  รวมทั้งช่วยลดปัญหาปฏิเสธผู้โดยสาร เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัญหาจราจรติดขัดเป็นส่วนหนึ่งทำให้แท็กซี่ต้องปฏิเสธผู้โดยสาร เนื่องจากหากเจอรถติดชั่วโมงการเดินทางผู้ขับรถจะมีรายได้เพียง 100 บาท ขณะที่มีต้นทุนประกอบอาชีพ 120 บาทต่อชั่วโมง หากไม่ปฏิเสธผู้โดยสารผู้ขับก็ต้องรับสภาพขาดทุนจนทำให้รายได้ไม่เพียงพอ ยืนยันว่ารายได้แท็กซี่เมื่อหักต้นทุนต่าง ๆ มีรายได้เหลือต่อวันเพียง 200 บาทต่อกว่าค่าแรงขั้นต่ำ หากอนุมัติปรับขึ้นค่าโดยสารตามข้อเรียกร้องจะมีรายได้เหลือ 400 บาทต่อวัน  พอต่อการประกอบอาชีพ

ส่วนปัญหาแท็กซี่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นนั้น ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม กล่าวว่า ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ต้องการความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ถูกกฎหมายปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง ขณะที่มีผู้ประกอบการอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายใด ๆ จึงอยากเห็นความชัดเจนถึงการใช้กฎหมายที่ปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกกลุ่มด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

เหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมที่ออสเตรีย

เวียนนา 11 มิ.ย. – มือปืนก่อเหตุกราดยิงผู้คนภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองกราซ เมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย บาดเจ็บอีก 11 คน ส่วนมือปืนยิงตัวตายหลังก่อเหตุ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงสายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย เป็นนักเรียน 8 คนและอาจารย์ 1 คน ทั้งหมดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 12 ราย ในจำนวนนี้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย เพิ่มจำนวนผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตเป็น 10 ราย ส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุ ตำรวจพบศพอยู่ในห้องน้ำของโรงเรียน เชื่อว่าใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ใกล้ศพพบอาวุธปืน 2 กระบอก พยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากนอกโรงเรียน ก่อนที่มือปืนจะเดินเข้าไปภายในอาคารโรงเรียนและกราดยิงในห้องเรียนอย่างน้อย 2 ห้อง ซึ่งเป็นจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มือปืนเป็นชายวัย 21 ปี เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้แต่เรียนไม่จบ ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนถูกกฎหมาย และเชื่อว่าเขาลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนหาแรงจูงใจของมือปืน ด้านนายกรัฐมนตรีคริสเตียน สตอคเกอร์ […]