ทีดีอาร์ไอเสนอเก็บค่าแท็กซี่ตามเวลาเดินทาง

รร.รามาการ์เด้น 14 มิ.ย. – กรมการขนส่งทางบกจับมือทีดีอาร์ไอแจงผลศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคารถแท็กซี่  มีข้อเสนอปรับขึ้นค่าโดยสารตามเวลาการเดินทางแทนคำนวณมิเตอร์ช่วงรถติด ขณะที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ยันขอปรับค่าโดยสารร้อยละ 10 เพื่อให้อยู่รอดและแก้ปัญหาปฏิเสธผู้โดยสาร



กรมการขนส่งทางบกร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาพัฒนาเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการรถแท็กซี่  โดยนายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานเปิดงานและกล่าวถึงผลการศึกษาที่กรมฯ มอบหมายให้ทีดีอาร์ไอศึกษา โดยยืนยันว่าค่าโดยสารเมื่อทีดีอาร์ไอสรุปผลส่งให้กรมฯ คาดว่าจะมีการดำเนินการเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นจะรวบรวมเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในฐานะฝ่ายนโยบาย เพื่อดำเนินการต่อไป 


ส่วนประเด็นปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวยังมี แต่เชื่อว่าหลังจาก พ.ร.บ.ขนส่งฉบับใหม่ที่รวม พ.ร.บ.รถยนต์และ พ.ร.บ.ขนส่งไว้ด้วยกันจะมีมาตรากำหนดให้ผู้ประกอบการเจ้าของอู่หรือสหกรณ์แท็กซี่ต้องเป็นผู้ประกอบการตามกฎหมายที่ขอใบอนุญาต หากปล่อยให้รถในสังกัดผิดกฎหมายหรือปฏิเสธผู้โดยสารบ่อยครั้งจะมีบทลงโทษชัดเจน เชื่อว่าจะทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลง อยู่ระหว่างการพิจาณณาขั้นสุดท้ายของ สนช.

นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงผลศึกษาว่า เบื้องต้นการปรับขึ้นค่าโดยสารยืนยันว่าอาจจะมีปัญหาการยอมรับ เนื่องจากการบริการในปัจจุบันรวมทั้งการปรับขึ้นค่าโดยสารไม่เป็นการการันตีว่าปัญหาปฏิเสธผู้โดยสารจะหมด จึงต้องใช้กลไกด้านอื่นรวมถึงบังคับใช้กฎหมาย ส่วนโครงสร้างราคาที่ศึกษานั้น พบข้อมูลว่าปัจจุบันการปรับค่าโดยสารทำได้หลายแบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ  ผู้ประกอบการจะต้องมีรายได้เฉลี่ยอย่างน้อย 1,600 บาทต่อวัน จึงจะคุ้มทุนต่อการดำเนินการ ส่วนการปรบขึ้นค่าโดยสารในส่วนมิเตอร์เริ่มต้น 35 บาท เห็นว่าไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นในส่วนนี้ ขณะที่การเก็บค่าโดยสารตามระยะทาง ปัจจุบันการจัดเก็บมีอัตราเอื้อต่อการประกอบอาชีพอยู่แล้ว 

ส่วนการปรับขึ้นที่เห็นว่าสามารถดำเนินการได้เหมาะสม คือ การเก็บค่าโดยสารตามมิเตอร์สำหรับอัตราที่รถติด ปัจจุบันตามกฎหมายกำหนดความเร็วของรถติดที่นำมาคำนวณค่าโดยสารกำหนด 6 กม.ต่อ ชม.ทีดีอาร์ไอเห็นว่าสามารถยกเลิก และคำนวณค่าโดยสารตามเวลาการเดินทางแทน เช่น กำหนดให้ใช้อัตราการเดินทาง 1 นาทีต่อ 50 สต. หากเดินทาง 1 ชม.จะเสียค่าโดยสารเพิ่ม 30 บาท เมื่อผู้ขับเดินทางไปพื้นที่รถไม่ติดผู้โดยสารก็จะเสียค่าเดินทางไม่มาก หากไปพื้นที่รถติดผู้ขับรถจะมีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นก็จะเกิดความเป็นธรรม  อย่างไรก็ตาม แนวทางที่เสนอในการประชุมจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้ขับรถแท็กซี่นำมาประกอบการพิจารณาต่อไป


นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลนี้เคยอนุมัติให้แท็กซี่ปรับปรุงบริการเพื่อแลกกับการปรับขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 15 แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกปรับขึ้นร้อยละ 8 เมื่อปรับปรุงบริการเป็นที่น่าพอใจแล้วจะปรับอีกร้อยละ 7 แต่ขณะนี้ร้อยละ 7 ผ่านมา 4 ปีผู้ประกอบการยังไม่ได้รับอนุมัติให้ปรับ  คิดว่าอัตราปรับขึ้นร้อยละ 7 เมื่อพิจารณาตามอัตราค่าครองชีพไม่น่าจะเพียงพอ โดยผู้ประกอบการเห็นว่าอย่างน้อยต้องอนุมัติให้ปรับขึ้นร้อยละ 10 จึงจะสามารถมีรายได้คุ้มกับต้นทุนดำเนินการ  รวมทั้งช่วยลดปัญหาปฏิเสธผู้โดยสาร เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัญหาจราจรติดขัดเป็นส่วนหนึ่งทำให้แท็กซี่ต้องปฏิเสธผู้โดยสาร เนื่องจากหากเจอรถติดชั่วโมงการเดินทางผู้ขับรถจะมีรายได้เพียง 100 บาท ขณะที่มีต้นทุนประกอบอาชีพ 120 บาทต่อชั่วโมง หากไม่ปฏิเสธผู้โดยสารผู้ขับก็ต้องรับสภาพขาดทุนจนทำให้รายได้ไม่เพียงพอ ยืนยันว่ารายได้แท็กซี่เมื่อหักต้นทุนต่าง ๆ มีรายได้เหลือต่อวันเพียง 200 บาทต่อกว่าค่าแรงขั้นต่ำ หากอนุมัติปรับขึ้นค่าโดยสารตามข้อเรียกร้องจะมีรายได้เหลือ 400 บาทต่อวัน  พอต่อการประกอบอาชีพ

ส่วนปัญหาแท็กซี่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นนั้น ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม กล่าวว่า ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ต้องการความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่ถูกกฎหมายปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง ขณะที่มีผู้ประกอบการอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายใด ๆ จึงอยากเห็นความชัดเจนถึงการใช้กฎหมายที่ปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกกลุ่มด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]