2 ผู้นำจับมือผลดีกับการค้าโลกและไทย

นนทบุรี 13 มิ.ย. – พาณิชย์ฟันธง “ทรัมป์จับมือคิม” เป็นผลดีกับการค้าโลกและไทย จับตาสหรัฐยกเลิกคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวถึงผลการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา  ว่า การลงนามในเอกสารที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าจะนำไปสู่กลไกรักษาสันติภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลีนั้น นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อการค้าโลกอย่างแน่นอน เพราะช่วยลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นจุดเปราะบางด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกมาตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่งลงไปได้ระดับหนึ่ง ซึ่งการที่ 2 ประเทศมีข้อตกลงระหว่างกันจะทำให้การค้าโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม ตลอดจนตลาดเงิน ตลาดทุน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการค้าโดยตรงระหว่างไทยและเกาหลีเหนือมีมูลค่าน้อยมาก 2.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 (ข้อมูลจากกรมศุลกากร) คิดเป็นสัดส่วน 0.0005 ของมูลค่าการค้ารวมของไทยส่วนหนึ่งเป็นเพราะไทยปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติที่ห้ามค้าขายสินค้าบางประเภทกับเกาหลีเหนือ เช่น ถ่านหิน และน้ำมัน แต่หากเกาหลีเหนือมีการฟื้นฟูการค้ากับต่างประเทศจะเป็นโอกาสให้ไทยขยายการส่งออกสินค้าศักยภาพของไทยที่ตลาดเกาหลีเหนือมีความต้องการ เช่น สินค้ากลุ่มอาหาร (ผลไม้แปรรูป และอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและปัจจัย 4 อื่น ๆ (เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ในบ้าน) กลุ่มวัตถุดิบ/สินค้าที่ใช้ในภาคการผลิตและภาคก่อสร้าง (ยางพาราและผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล) เป็นต้น นอกจากการค้าขายกับเกาหลีเหนือโดยตรงที่น่าจะขยายตัวได้แล้ว การค้าขายสินค้ากับจีนที่เป็นสินค้าขั้นกลาง (intermediate) น่าจะเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาสหรัฐมีการห้ามค้าขายกับเกาหลีเหนือผ่านประเทศที่ 3 อยู่บางส่วน


ทั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐยังไม่ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ เพราะต้องการติดตามดูว่าเกาหลีเหนือจะปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ ดังนั้น ผู้ประกอบการและผู้ส่งออก-นำเข้าของไทย จึงยังควรติดตามสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง แต่ในภาพรวมมองว่าเป็นผลดีกับการค้าระหว่างประเทศโดยรวม และต่อการค้าไทยอย่างแน่นอน

สำหรับปี 2560 เกาหลีเหนือมีมูลค้าการค้าระหว่างประเทศ 5,378 ล้านดอลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม สินแร่และเชื้อเพลิง อาหารทะเล เหล็กและเหล็กกล้า ผักและผลไม้ ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ ผ้าผืนและสิ่งทอ ทั้งนี้ จีนถือเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของเกาหลีเหนือ โดยมีมูลค่าการค้าขายระหว่างกัน 5,005 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย