ภาคใต้ 11 มิ.ย.-ระยะเวลาที่ห่างกันเพียงแค่ 4 วัน เกิดเหตุไม่สงบลักษณะสังหารหมู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 2 เหตุการณ์ ทั้งเหตุ อ.บันนังสตา เมื่อคืน ซึ่งเสียชีวิต 5 ศพ รวมถึงเหตุยิงคนร่อนทองใน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ
เหตุสะเทือนขวัญยิง 5 ศพเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่บ้านตะโละดือลง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ถือว่าสร้างแรงกระเพื่อมให้ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก แม้ยังไม่มีการฟันธงประเด็นสังหารว่ามาจากการสร้างสถานการณ์ แต่พฤติกรรมการก่อเหตุถือว่าใกล้เคียงกับเหตุที่เพิ่งเกิดไป
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุยิงชาวบ้านตระกูล “บาโด” ที่เข้าไปร่อนทองในแม่น้ำสายบุรี ช่วงรอยต่อ อ.สุคิริน กับ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 4 ศพ และทั้งหมดเป็นชาวไทยมุสลิม จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ แต่เบื้องต้นมีการขออนุมัติหมายจับ 8 คน ส่วนใหญ่เป็นอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่และมีประวัติก่อเหตุโชกโชน จากพฤติการณ์คนร้ายถือว่าโหดเหี้ยมทั้ง 2 เหตุการณ์ เพราะเป็นการใช้อาวุธปืนยิงในลักษณะประชิด หวังสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของหน่วยงานความมั่นคงในช่วงปลายของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
ส่วนเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกัน ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 หลังเกิดเหตุสังหารหมู่ 4 ศพในบ้านหลังหนึ่งที่ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี คนร้ายจับคนในบ้านมัดมือมัดเท้า หนึ่งในเหยื่อเป็นหญิงตั้งครรภ์ 4 เดือน ก่อนใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะทีละคนอย่างโหดเหี้ยม
แม้ปฏิบัติการของอาร์เคเคทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ในพื้นที่จะเน้นไปที่การสังหารรายบุคคล แต่การลอบปั่นป่วนทั้งวางระเบิดและขึ้นป้ายผ้ายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุวางระเบิดตู้ ATM, สิ่งสาธารณูปโภค และยิง M79 ถล่มฐานทหารในพื้นที่ รวม 24 จุด เมื่อคืนวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ถือเป็นเหตุการณ์ที่บั่นทอนความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาเหตุรุนแรงในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย
