BIG STORY : ตรวจสอบเหตุกราดยิง 5 ศพที่บันนังสตา

ยะลา 11 มิ.ย.-เหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธสงครามบุกกราดยิงกลุ่มชาวบ้าน 5 คนที่ตั้งวงพูดคุยกันอยู่หลังบ้านที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้ทั้ง 5 รายเสียชีวิต เป็นเหตุสะเทือนขวัญที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งคลี่คลายคดี


บ้านหลังนี้อยู่ที่ ม.4 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งบริเวณหลังบ้านจะเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่สำหรับเลี้ยงไก่ชน และเป็นจุดเกิดเหตุที่คนร้ายก่อเหตุกราดยิงชาวบ้านกลุ่มผู้ชาย 5 คน ที่กำลังนั่งตั้งวงพูดคุยกันอยู่ที่บริเวณหลังบ้าน โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ในเวลาประมาณ 00.30 น. ได้ยินเสียงปืนดังรัวมากกว่า 10 นัด แต่ไม่มีใครกล้าออกมาดูที่จุดเกิดเหตุ เพราะทุกคนที่อยู่ภายในบ้านล้วนเป็นผู้หญิง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ และออกมาดูจุดเกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ ซึ่งพบว่าชายทั้ง 5 คน นอนเสียชีวิตบริเวณนี้ทั้งหมดแล้ว


ผู้เสียชีวิตประกอบด้วยนายอิบรอเฮง มูเซะ, นายอามะ มูเซะ, นายอุสมาน ยูโซ๊ะ, นายฟุรกอน ลาโซ และนายอรัญชัย ดอเหะ บางคนมีความสัมพันธ์เป็นญาติกัน โดยสภาพศพทั้ง 5 ราย ถูกยิงด้วยปืนสงคราม เจ้าหน้าที่ได้นำศพไปชันสูตรที่ รพ.บันนังสตา ก่อนจะให้ญาตินำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามและปืนลูกซองตกเกลื่อนในที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน 


นางเราะนา มูเซะ พี่สาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่ารู้สึกสะเทือนใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำใจไม่ได้กับความโหดเหี้ยมของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ในครั้งนี้

นางเราะนา ยอมรับว่าผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมชอบตั้งวงมั่วสุมน้ำกระท่อมอยู่เป็นประจำ และต้มนำกระท่อมจำหน่ายด้วย และก่อนหน้านี้มีคนมาเตือนผู้เสียชีวิตแล้วหลายครั้งว่าห้ามจำหน่าย แต่ผู้เสียชีวิตยังคงจำหน่ายน้ำกระท่อม ไม่เว้นแม้แต่ในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนบวชของชาวมุสลิม

นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มาเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย พร้อมให้กำลังใจและมอบสิ่งของให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น

ด้านความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผกก.สภ.บันนังสตา เผยทราบดีว่าที่บ้านหลังเกิดเหตุเป็นที่มั่วสุมดื่มน้ำกระท่อม แต่ไม่มียาเสพติดชนิดอื่นๆ และแม้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีผู้หวังดีมาเตือนให้หยุดพฤติกรรมการเสพและขายน้ำกระท่อม แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นชนวนเหตุให้มีความขัดแย้งกันถึงขั้นก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สภ.บันนังสตา ยังไม่ทิ้งประเด็นเรื่องการสร้างสถานการณ์รุนแรง และความขัดแย้งในพื้นที่ ซึ่งหากทราบผลตรวจพิสูจน์หลักฐานแล้วน่าจะทราบความชัดเจนมากขึ้น 

ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงเน้นย้ำให้หน่วยกำลัง พร้อมผู้นำ 4 เสาหลัก สร้างความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนในพื้นที่ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูลกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังเช่นหลายครั้งที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในห้วง 5 วันนี้ เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 เหตุ มีผู้เสียชีวิตรวม 10 คนแล้ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว