fbpx

ไทย-เมียนมา ร่วมมือปราบปรามกลุ่มผู้ผลิตและค้ายาเสพติด

ป.ป.ส. 10 มิ.ย.ไทย-เมียนมา ร่วมมือปราบปรามกลุ่มผู้ผลิตและค้ายาเสพติด


นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย แถลงผลการจับกุม 2 คดี คดีแรก


ผู้ต้องหาสัญชาติไทยที่หลบหนีหมายจับคดียาเสพติดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.61 หน่วยปราบปรามยาเสพติดของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) ประจำจังหวัดท่าขี้เหล็ก จับกุมนายเจริญ เกียรติพรพานิช ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับศาลอาญา ซึ่งสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2557 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ดีเอสไอ จับกุมนายยุทธ จันแก้ว และพวกรวม 4 คน พร้อมของกลางไอซ์ 20 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินมูลค่า 10,000,000 บาท และขยายผลออกหมายจับข้อหาสมคบฯ รวม 3 คน คือ นายนรินทร์ จันทร์บำรุง นายนริศร วัชรีนันท์ และนายสาม ทองเงิน โดยสามารถติดตามจับกุมได้ทั้ง 3 ราย ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ารวม 35,000,000 บาท และได้สืบสวนขยายผลออกหมายจับ นายเจริญ หรือไว หรือ ก้อ เกียรติพรพานิช ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายทำหน้าที่เก็บรักษาและลักลอบ ส่งมอบยาเสพติดให้กับลูกค้า โดยสำนักงาน ป.ป.ส. สืบทราบว่า นายเจริญฯ ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก จึงได้ประสานงานไปยังหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) จนสามารถติดตามจับกุมนายเจริญฯ ได้พร้อมของกลาง เงินสด (ธนบัตรรัฐบาลไทย) จำนวน 4.2 ล้านบาท เงินสด (ธนบัตรเมียนมา) จำนวน 8.445 ล้านจ๊าด ทองรูปพรรณ 25 บาท รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด จำนวน 1 คัน รวมมูลค่า 8 ล้านบาท ณ จังหวัดท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และต่อมาเมื่อวันที่ 6-8 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ ปปส. ในประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจค้นและยึดทรัพย์สินของนายเจริญฯ ได้แก่ รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 8 คัน โฉนดที่ดิน 2 แปลง ทองคำ เงินสด บัญชีธนาคาร กระเป๋าแบรนด์เนม และเครื่องประดับ รวมมูลค่าประมาณ 12,000,000 บาท มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ยึดได้รวม 20,000,000 บาท

ส่วนอีกคดี เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2561 โดยหน่วยปราบปรามยาเสพติดของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) ประจำจังหวัดท่าขี้เหล็ก ตรวจยึดสารโซเดียมไซยาไนด์ (Sodium Cyanide) จำนวน 300 ถัง รวมน้ำหนักประมาณ 15 ตัน ได้ที่ อ.ท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมจับกุมนายสวัสดิ์ แก้ว ดา ผู้ต้องหาชาวไทย 1 คน ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุก โดยอ้างว่านำไปใช้ในเหมืองทองคำ 


คดีนี้ สืบเนื่องจาก เดือนพฤษภาคม 2561 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานจากศุลกากรด่านเชียงแสนว่ามีการขออนุญาตส่งออกสารโซเดียมไซยาไนด์จากประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมา โดยจะลำเลียงผ่านแม่น้ำโขง แต่ด่านศุลกากรเชียงแสนไม่อนุญาตให้ส่งออก เนื่องจากตามข้อตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง โซเดียมไซยาไนด์ (Sodium Cyanide) เป็นวัตถุอันตราย ไม่สามารถลำเลียงทางแม่น้ำโขงได้ บริษัทผู้ส่งออกจึงได้นำสารดังกล่าวเก็บไว้ที่โกดังในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กระทั่งวันที่ 2 มิ.ย. มีการนำสารโซเดียมไซยาไนด์ดังกล่าว ส่งออกไป อ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งด่านศุลกากรแม่สายได้ทำการตรวจผ่านสินค้า  เนื่องจากสารโซเดียมไซยาไนด์ดังกล่าว มีใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออกของกรมโรงงานอุตสาหกรรมถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. และด่านศุลกากรแม่สายได้ประสานให้หน่วยปราบปรามยาเสพติดของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (CCDAC) ประจำจังหวัดท่าขี้เหล็ก ทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง และพบว่าไม่มีใบอนุญาตนำเข้าไปในประเทศเมียนมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงทำการตรวจยึดจับกุมดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเป็นการลักลอบเพื่อนำไปผลิตยาเสพติด 

เลขาธิการ (ป.ป.ส.) ระบุสารโซเดียมไซยาไนด์ นำไปใช้เหมืองเพื่อแยกโลหะออกจากโลหะทองคำ แต่มีเส้นทางการลำเลียงที่ผิกปกติ  ทำให้คาดว่าอาจนำไปใช้ในขบวนการค้ายาเสพติด เนื่องจากโซเดียมไซยาไนด์เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดโดยจำนวนที่จับกุมได้ 15 ตัน สามารนำไปผลิตเป็นยาไอซ์ 5,900 กก. และสามารถนำไปผลิตยาบ้า 259 ล้านเม็ด ซึ่งจะประสาน ป.ป.ส.เมียนมา ตรวจสอบขยายผลต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราชส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม

รมว.พาณิชย์ ปลื้ม “กล้วยหอมทอง” โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 44 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด ภาคอีสาน สูงสุด 44 องศาฯ แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“