กทม.9 มิ.ย.- บุคลากรทางการศึกษา เรียกร้อง ก.ค.ศ.พิจารณา ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะอีกครั้งโดยใช้หลักเกณฑ์รางวัลมากกว่า การเขียนเสนอผลงาน และเร่งแจ้งผลการพิจารณาที่เหลือกว่า 4,000 คน
ที่โรงเรียนหอวัง ตัวแทนบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากการไม่ได้เลื่อนวิทยฐานะ (ว.13) จากทั่วประเทศ ได้สะท้อนปัญหาหลังมีการเสนอผลงานและรางวัลเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะจาก ผู้ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 9 เช่น อาจารย์สวัสดิ์ เพชรบูรณ์ ผอ.โรงเรียนหอวัง กล่าวว่า ได้ยื่นขอเลื่อนวิทยฐานะเมื่อเดือนเมษายน 2559 ผ่านไป 2 ปี มีเพื่อนครูบางคนยังไม่ทราบมติของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ ก.ค.ศ. กรณีของตนไม่ผ่านเกณฑ์ แต่ไม่มีการชี้แจงเหตุผล โดยขอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาใหม่โดยใช้หลักเกณฑ์ซึ่งยึดตัวรางวัลและผลงาน ที่ผ่านมา มีหลายท่านเสียสิทธิ ทั้งเรื่องเงินประจำตำแหน่ง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน บางคนจะเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ยืนยันไม่มีเจตนาฟ้องร้องหรือประท้วง แต่อยากร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
ด้านนางอรทัย เกิดภิบาล ผอ.โรงเรียนควนเมา จังหวัดตรัง หนึ่งในผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะ แต่ยังไม่ทราบผล กล่าวว่า อยากให้ ก.ค.ศ.รีบแจ้งผลให้ทราบเนื่องจากล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว หากยังไม่ดำเนินการจะยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม และว่าการพิจารณาเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ ควรใช้หลักเกณฑ์เดิมคือ รางวัล 3 รางวัล หรือรางวัลเทียบเคียงเป็นเกณฑ์ ตามที่กำหนดไว้ ไม่ใช่พิจารณาจากการเขียนเสนอผลงาน เนื่องจากเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน อย่างไรก็ตาม มีบุคลากรทางการศึกษา ยื่นขอเลื่อนวิทยฐานะไปกว่า 5,000 คน แต่ ทราบผลเพียง 200 คนเท่านั้น
สำหรับผู้ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ ที่จะขอเลื่อนวิทยฐานะ จะต้องดำรงตำแหน่ง เป็นผู้ชำนาญพิเศษอย่างน้อย 3 ปี และมีรางวัลหรือผลงานเทียบเคียง 3 รางวัล ในระดับประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายอภิชาติ จีระวุฒิ อดีตประธาน คณะอนุกรรมการใน ก.ค.ศ. วิสามัญ เกี่ยวกับตำแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้มาให้ความรู้เรื่องการเรียนรู้การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเลื่อนวิทยฐานะ แนะ ให้บุคลากรทางการศึกษาทุกคน เก็บผลงานตัวเอง คำสั่งการแต่งตั้ง เลื่อนขั้นไว้ เพื่อความสะดวก และพิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์การยื่นรางวัล เพื่อเลื่อนขั้นวิทยฐานะ อย่างละเอียด ยอมรับปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ผ่านการเลื่อนวิทยฐานะส่วนใหญ่เกิดจากการเขียนผลงานที่ไม่ครอบคลุม สั้นบ้าง ไม่ตรงประเด็น และว่าไม่อยากเห็นบุคลากรทางการศึกษาออกมาประท้วง อยากให้ใช้ช่องทางขอความเป็นธรรมโดยการยื่นอุทธรณ์มติ ก.ค.ศ.-สำนักข่าวไทย
