ศธ.กำชับพื้นที่ เข้มตรวจโครงการอาหารกลางวันเด็ก

ศธ.8 มิ.ย.-ปลัด ศธ.-เลขา กพฐ.ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมศึกษาธิการจังหวัด-ผอ.เขตพื้นที่ กำชับลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการอาหารกลางวัน หากทุจริต ดำเนินการเฉียบขาดผอ.โรงเรียนทันที


นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)เป็นประธานประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์(conference) ชี้แจงและทำความเข้าใจเรื่องการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการและนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ร่วมกับ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ,ศึกษาธิการภาค, ศึกษาธิการจังหวัด และผู้อำนวยการสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยมีเรื่อง              ชี้เเจง ดังนี้ การปฏิบัติหน้าที่เเละความรับผิดชอบตามนโยบายเเละมาตรการของรัฐบาล ,การดำเนินการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริต, การตรวจติดตามการดำเนินการอาหารกลางวันของนักเรียน ,การบูรณาการในการดำเนินการป้องกันเเละเเก้ไขปัญหาการเล่นพนันฟุตบอลโลก , การกวดขันเรื่องการลงโทษนักเรียนผิดระเบียบเเละการกระทำผิดทางวินัย


นายบุญรักษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัดเเละผอ.เขตพื้นที่การศึกษา นอกจากการทำหน้าที่ส่งเสริมเเละสนับสนุนการจัดการ ศึกษาเเล้ว ยังต้องกำกับติดตามเเละเอาใจใส่การดำเนินงานตามระเบียบราชการหรือการปฏิบัติตามโครงการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เพียงเเค่รับรองเอกสารเเต่ภาระงานหลักต้องอยู่ที่โรงเรียน ขณะเดียวกัน ผอ.โรงเรียนก็ต้องรู้หน้าที่ตัวเองเเละปฏิบัติตามนโยบายเเละระเบียบราชการอย่างเคร่งครัดและเสนอให้ศึกษาธิการจังหวัดทำงานบูรณาการกับเขตพื้นที่การศึกษา ตั้งคณะอนุกรรมการติดตาม1ชุด เพื่อควบคุมเเละติดตามการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โดยดึงบุคคลภายนอกเข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อให้ทราบปัญหา นำสู่การเเก้ไขรอบด้าน


ต่อมาเรื่องการดำเนินการปราบปรามการทุจริต มีมติคณะรัฐมนตรีว่า ถ้ามีการร้องเรียนเรื่องทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วันเเละเข้าเเก้ปัญหา ดำเนินการทางวินัย อาญาเเละทางละเมิดโดยเร็ว  กรณีทำความเสียหายเเก่ราชการเเละสร้างความเดือดร้อนของประชาชน เเม้การสืบสวนข้อเท็จจริงยังไม่เเล้วเสร็จ ให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งอื่นเป็นการชั่วคราว ,หากสืบสวนได้ชัดเจนเเล้ว เป็นโทษวินัยที่ร้ายเเรง ให้เสนอลงโทษโดยเร็วเเละต้องรายงานผลตามลำดับ โดยผอ.เขตพื้นที่การศึกษาเเละศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้ใช้อำนาจ เเต่ต้องรายงานมายังส่วนกลางด้วย แบ่งเป็น ผอ.เขตพื้นที่ต้องรายงานมายัง สพฐ.และศึกษาธิการจังหวัด  หากดำเนินการเสร็จสิ้นกระบวนการเเล้ว ต้องรายงานมายังปลัดกระทรวงศึกษาฯด้วย ที่ผ่านมาระบบการรายงานของเขตพื้นที่ยังต้องปรับปรุง เพราะไม่ค่อยรายงานให้ทราบเเละรายงานล่าช้า

สำหรับเรื่องติดตามการดำเนินการโครงการอาหารกลางวัน ซึ่งปลัดศธ.ก็ได้สั่งการในส่วนของศึกษาธิการจังหวัดให้บูรณาการกับ ผอ.เขตพื้นที่ลงติดตามปัญหา ขณะเดียวกันในส่วนของสพฐ.วันนี้ได้ส่งหนังสือสั่งการและเเบบประเมินติดตามการตรวจสอบอย่างเป็นทางการกำชับให้ผอ.เขตพื้นที่มอบให้ศึกษานิเทศก์ไปตรวจติดตามโครงการอาหารกลางวันว่ามีการบริหารและระบบการจัดการอาหารกลางวันเป็นอย่างไร มีปริมาณที่เหมาะสมเเละมีคุณภาพหรือไม่   ถ้าทุจริตต้องดำเนินการทันที แต่หากไม่ทุจริตเเค่บริหารงานไม่เป็นระบบก็ต้องมีการแก้ไขทันที จัดระบบให้เหมาะสม     โดยให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นประจำในโรงเรียนที่มีการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการเบื้องต้นว่าให้เริ่มลงพื้นที่ไปตรวจสอบตั้งเเต่วานนี้(7มิ.ย.) โดยกำลังเร่งตรวจสอบว่าเขตใดปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติบ้าง เเละหากพบว่า ไม่ไปตรวจสอบปล่อยให้เกิดความเสียหาย ผอ.เขตพื้นที่ต้องรับผิดชอบ  ขณะเดียวกันหากพบการทุจริตให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาดผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเร็วที่สุด ตามมาตรการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อีกทั้งยังสั่งการทุกโรงเรียนให้ศึกษาโปรแกรม Thai school lunch วางเเผนร่วมกันจัดระบบอาหารให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม

ส่วนเรื่องบูรณาการดำเนินการป้องกันเเละเเก้ไขปัญหาการเล่นพนันฟุตบอลโลก สพฐ.ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูเเลเเละกวดขันเด็กตั้งเเต่ก่อนเริ่มเเข่งขันฟุตบอล ระหว่างเเข่งเเละหลังการเเข่งขัน ซึ่งเขตพื้นที่ประถมศึกษาก็ไม่ควรละเลยปัญหานี้ ส่วนเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาต้องทำงานอย่างหนัก โดยเด็กวัยนี้อยากเรียน อยากลอง อยากรู้ อยากโชว์ จึงต้องช่วยกันดูเเลในฐานะพ่อเเม่คนที่สองของเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่ต้องดูเเลอย่างทั่วถึงให้ครูประจำวิชาเเละครูประจำชั้นดูเเลเด็กใกล้ชิด

และเรื่องการกวดขันการลงโทษนักเรียนผิดระเบียบให้ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาเเละผอ.โรงเรียน กวดขันครูเรื่องการลงโทษนักเรียนผิดระเบียบ โดยประชุมครูเพื่อทำความเข้าใจถึงขอบเขตการลงโทษเด็ก ตามระเบียบที่ราชการกำหนดเท่านั้น โดยต้องไม่เกินเหตุเเละไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เอาอารมณ์มาลงโทษเด็ก ต้องควบคุมให้ได้เพราะถือเป็นเเม่พิมพ์ของชาติเพราะหากลงโทษเกินไปไม่ถูกต้องจะสร้างบาดเเผลในใจเด็กตลอดไป ส่วนเรื่องอื่นๆกรณีหากพบเด็กเเละบุคลากรทางการศึกษาที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการค้ามนุษย์ ต้องดูเเลเด็กอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่