เร่งปฎิรูปการศึกษา ให้เยาวชนในสถานพินิจฯ

ก.ยุติธรรม 8 มิ.ย.-กรมพินิจฯเร่งปฏิรูปการศึกษาเด็กเยาวชนในสถานพินิจและศูนย์ฝึก หวังลดจำนวนผู้กระทำผิดซ้ำ พบเด็กที่ถูกส่งตัวเข้ามาการศึกษาสูงสุดแค่ระดับประถม วางเป้าให้ออกไปแล้วมีอาชีพทำกินได้


ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมระดมความเห็นเพื่อกำหนดแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน   ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดการศึกษาให้กับเยาวชนเหล่านี้อยู่แล้ว ทั้งในระบบการศึกษานอกโรงเรียนและการส่งเยาวชนในสถานพินิจไปเรียนร่วมกับนักเรียนปกติในโรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือกับสถานศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัดที่ตั้งของสถานพินิจเหล่านั้นอยู่แล้ว โดยเฉลี่ยระดับการศึกษาของเยาวชนที่เข้าสู่สถานพินิจระดับประถมศึกษา จึงต้องจัดแบ่งระดับการศึกษาให้เหมาะสม สอดคล้องกับระยะเวลาที่ศาลสั่งควบคุม 


ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เนื่องจากในปัจจุบันมีตัวเลขของเยาวชนที่พ้นออกไปจากสถานพินิจฯแล้วกลับทำผิดซ้ำภายในระยะเวลา1ปีและกลับเข้ามาสู่สถานพินิจฯ หรือเรือนจำสูงถึงร้อยละ50-60 ในหลายประเทศ ในส่วนของประเทศไทยมีตัวเลขการทำผิดซ้ำและกลับเข้ามาทำผิดซ้ำอยู่ที่ร้อยละ40 ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการพิจารณาว่าหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบันถูกต้องหรือไม่ หรือสามารถที่จะทำให้เยาวชน ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองจนไม่ต้องกลับไปทำผิดซ้ำได้อีก


ทั้งนี้ เบื้องต้นเห็นว่า ให้เรียนเฉพาะหลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์ สังคมและวิชาทั่วไปไม่เพียงพอแล้ว จะต้องเพิ่มวิชาจริยธรรมและคุณธรรม ที่ยังมีน้อยมากในปัจจุบันลงไปเพิ่มขึ้นอีก โดยต้องเป็นการเรียนการสอนที่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีตัวชี้วัดว่าเด็กและเยาวชนสมาธิสั้น รวมทั้งจะต้องมีการเพิ่มบุคลากรด้านสังคมและจิตวิทยา ซึ่งยังมีไม่เพียงพอเช่นกันให้มากขึ้น  

สำหรับการจัดการศึกษาของเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและศูนย์ฝึกฯ พบว่า เป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับการศึกษาเลย 576 คน,จบระดับประถมศึกษา 2,070 คน ,มัธยมต้น 951 คน มัธยมปลาย 79 คน ปวช.15 คนและการศึกษาอื่นๆ 95 คน ระยะเวลาที่ศาลสั่งฝึกอบรมตั้งแต่1-3เดือนไปจนถึง2ปี โดยครู 1คนต้องดูแลเด็ก50-80 คนเนื่องจากบุคลากรของกรมพินิจฯยังมีหน้าที่อื่น เช่น ต้องรายงานพฤติกรรมเด็กส่วศาล ซึ่งในส่วนนี้จะมีผลต่อการลดวันควบคุมตัวเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เด็กกระตือรือร้นในการศึกษาและกลับตัวเป็นคนดี

ในส่วนของวิชาชีพที่ศูนย์ฝึกจัดอบรมให้เยาวชน ได้แก่ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างไม้ช่างยนต์ ช่างกลโรงงาน ช่างทำผม คอมพิวเตอร์ เกษตรกรรม ศิลปะ หัตถกรรม คหกรรม  และอื่นๆ เพื่อให้เด็กสามารถเลี้ยงตัวเองและทำเป็นอาชีพได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกร้อยละ 48 กระทำความผิดในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ  โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ พบว่าเด็ก ที่กระทำผิดเนื่องจากถูกใช้เป็นผู้ส่งยา บางรายโชคร้ายเป็นทั้งผู้ลำเลียงและผู้เสพ  จนต้องถูกส่งตัวไปบำบัดรักษาอาการติดยา  โดยปัญหายาเสพติดจะแก้แก้เฉพาะภายในศูนย์ฝึกและสถานพินิจไม่ได้สังคมภายนอกก็ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนถูกชี้นำและครอบงำในทางที่ผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง