โจ๋นับ 10 รุม 1 บาดเจ็บ หลังผับเลิก

พระนครศรีอยุธยา 5 มิ.ย.-โซเชียลแชร์คลิป 10 โจ๋ รุม 1 บาดเจ็บ ริมถนนโรจนะ 5 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ถูกทำร้ายเผยกำลังเดินทางกลับจากผับ ก่อนกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน มารุมทำร้าย อ้างว่าตนเองไปตบน้อง


จากกรณีเฟซบุ๊ก Meaw Meaw ได้โพสต์ ชื่อคลิปรุมทำร้าย 10 ต่อ 1 บริเวณหน้าปากซอยหมู่บ้านราชพฤกษ์ ถนนโรจนะ หมู่ 5 ตำบลคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 4 มิย. 61ที่ผ่านมาจนมีผู้แสดงความคิดเห็นต่อการกระทำดังกล่าวว่ารุนแรงเกินไป


ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 5 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินไปพบกับนายพงษ์ศิริ อายุ 20 ปี ผู้ที่ถูกทำร้ายได้รับเจ็บในคลิป ได้กล่าวเล่าว่าคืนวันเกิดเหตุได้เที่ยวที่ผับคลองเพลง 5ที่บริเวณถนนโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา กับเพื่อนชาย 3 คน เพื่อนหญิง 3 คน จนกระทั่งผับเลิกตามเวลาและ กำลังจะเดินทางกลับ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบชื่อประมาณ 10 คน หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นได้เข้ามาถามตนบริเวณด้านหน้าผับว่าไปตบหน้าน้องเขาทำไม ตนจึงตอบกลับไปว่าไม่ตบ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ตบและชกเข้าที่ใบหน้า จนเพื่อนของตนเองที่มาด้วยกันได้เข้ามาห้ามปรามและเลยถูกลูกหลงไปด้วยจากนั้นตนและเพื่อนที่มาด้วยกันรีบชวนกลับที่พักโดยตนเองได้ขับขี่รถจยย.ทะเบียน1กก 8939 ตาก  เมื่อมาถึงบริเวณปากซอยหมู่บ้านราชพฤกษ์ ห่างจากผับประมาณ 1 กม. กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ขับรถเก๋งและรถ จยย.มาปาดหน้าแล้วลงมารุมเข้าทำร้ายชกต่อยตน ตามที่เพื่อนของตนที่ขี่รถจยย. ตามมาตอนหลังมาพบเจอกลุ่มวัยรุ่นกำลังก่อเหตุ จึงได้ถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้และตะโกนห้ามปราม หลังจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้หลบหนีไป เพื่อนจึงพาไปส่งโรงพยาบาลเวชธานี ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ โดยแพทย์เวรตรวจร่างกายพบบริเวณใบหน้าด้านขวาเขียวช้ำ แขนทั้งสองข้างมีรอยฟกช้ำและได้จ่ายยาแก้ปวดอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่ห้องพัก

นายพงษ์ศิริยังได้กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุโดนทำร้ายนั้นตนไม่ทราบหน้าจะทำร้ายผิดตัวหรือตอนที่เต้นอยู่ในผับ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นมาเต้นกับเพื่อนหญิง ซึ่งตนก็ได้เต้นอยู่ในกลุ่มผู้หญิงด้วยอาจทำให้วัยรุ่นเกิดไม่พอใจจึงถูกรุมทำร้าย ส่วนคลิปนั้นได้ทราบภายหลังว่าเพื่อนผู้หญิงเป็นคนถ่ายและนำไปลงในเฟซบุ๊ก จนมีผู้มาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนนมากและหลังจากถูกทำร้ายตนก็ยังไม่ได้เนื่องจากยังเจ็บบวมอยู่จึงได้เดินทางมาแจ้งความในวันนี้กับเพื่อนอีกคนที่เข้าห้ามและถูกชกต่อยด้วย


ทางด้านนายปรเมษ เพื่อนของนายพงษ์ศิริ บอกต่ออีกว่าได้มาเที่ยวด้วยกันแต่กลับก่อน นายพงษ์ศิริได้โทรมาหาว่ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นด้านหน้าผับ จึงได้เดินมาดู พบว่านายพงษ์ศิริ กำลังถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจึงเข้าห้ามทำให้ตนเองถูกชกบริเวณเบ้าตาด้านซ้ายมีเลือดคลั่งในดวงตา จากนั้นจึงรีบชวนกันกลับจนมาถูกดักทำร้ายรอบ2 ซึ่งห่างจากจุดแรกไม่ไกลและหลังจากถูกทำร้ายตนและนายนายพงศ์ศิริก็ยังไม่ได้ไปแจ้งความเนื่องจากยังปวดเจ็บบาดแผลอยู่และในวันนี้จึงได้ชวนกัน เดินทางไปแจ้งความที่ กับ ร.ต.อ.สายันณ์ อินลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.อุทัย ส่วนทาง

ด้าน พ.ต.อ .ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สภ.อุทัย กล่าวว่าหลังจากได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 4 มิย. 61ที่ผ่านมา แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความตั้งแต่คืนเกิดเหตุ และเมื่อดูคลิปวีดีโอจากผู้เสียหายแล้วได้สั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อุทัย ลงพื้นที่หาข้อมูลของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นคดีที่สังคมรับไม่ได้จากการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเพื่อติดตามวัยรุ่นกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย