กทม. 5 มิ.ย.- วัดสัมพันธวงศ์เงียบเหงา หลัง “อดีตพระพรหมเมธี” หลบหนีคดี ขณะที่ พศ.ยังไม่ได้รับการประสาน รับตัวอดีตพระพรหมเมธี วันพรุ่งนี้
บรรยากาศที่วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เงียบเหงาไปถนัดตา แทบไม่มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาทำบุญ โดยบริเวณโบสถ์ถูกปิดเงียบเช่นกัน เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นปกติ วัดนี้เงียบสงบ จะคึกคักเฉพาะวันสำคัญทางศาสนาและวันเกิดเจ้าอาวาส สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และวันเกิดอดีตพระพรหมเมธี หรือพระจำนงค์ ธมฺมจารี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสเท่านั้น ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้นกับอดีตพระพรหมเมธี จึงทำให้ช่วงนี้วัดเงียบเหงา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัดสัมพันธวงศ์ เจ้าอาวาสชราภาพ จึงแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส โดยก่อนหน้านี้เป็นอดีตพระพรหมเมธี แต่เนื่องจากอยู่ระหว่างหนีคดีเงินทอนวัด ลอต 3 ล่าสุดคาดการณ์ว่าจะแต่งตั้งพระราชสารเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสอีกรูป เป็นรักษาการปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาส แทนอดีตพระพรหมเมธี ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกิจการต่างๆ ของวัด
อย่างไรก็ตาม จากที่มีรายงานว่า ตำรวจเตรียมนำตัวอดีตพระพรหมเมธีเดินทางกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เช้าวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ยังไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ต้องรอความคืบหน้าอีกครั้งในช่วงบ่าย ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว การเดินทางไปรับพระจะมีส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คอยประสานงานความเรียบร้อยในขั้นตอนทางสงฆ์
สำหรับการสึก พระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิสุทธิกุสโล) หรือเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เลขานุการอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดระเกศฯ มีรายงานว่า เป็นการสึกตามขั้นตอนปกติ เป็นฆราวาสและไม่มีผู้ร้องต่อเจ้าคณะปกครอง เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยสงฆ์ หรือสอบอธิกรณ์ เกี่ยวกับภาพที่ไม่เหมาะสมทางพระธรรมวินัยในลักษณะเสพสังวาส
อย่างไรก็ตาม การปาราชิกฐานเสพเมถุน เจ้าตัวจะรู้ตัวเองดี หากกระทำจริงก็ถือว่าขาดจากความเป็นสงฆ์ทันที และไม่มีสิทธิกลับมาบวชอีก แต่กรณีเจ้าคุณปิง ยังไม่มีการยืนยันว่า ภาพลามกอนาจารเป็นลักษณะใด และยังไม่มีการตั้งสอบอธิกรณ์ จึงยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าปาราชิกหรือไม่
นอกจากนี้ ตำแหน่งทั้งหมดหลังจากสึก ถือว่าสิ้นสุดอัตโนมัติ ทั้งตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และเลขานุการสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย