กรุงเทพ 5 มิ.ย.- อัยการไม่ฟันธงคดีเงินทอนวัด รอพิจารณาสำนวนจากตำรวจก่อน ตอนนี้ทำได้เพียงติดตามข่าวและรอขั้นตอนตามกฎหมาย
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุด กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดี หลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปรับตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัด จากประเทศเยอรมนี ว่า ในส่วนของจำนวนคดีหรือระยะเวลาในทำงาน ตอนนี้ทางอัยการยังไม่สามารถตอบ หรือให้ข้อมูลอะไรได้เลย เนื่องจากขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ส่งมอบสรุปสำนวนคดีเกี่ยวกับเรื่องเงินทอนวัดมาให้ทางอัยการ เพื่อทำการสั่งฟ้อง ตอนนี้อัยการทำได้เพียงแค่ติดตามข่าว และรอขั้นตอนตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้รับสำนวนคดีมาแล้ว สามารถดำเนินการได้เลยหรือไม่ หรือต้องรอข้อมูลจากการสืบสวนในลอตที่ 4 ที่ทางตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า การทำงานเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ทางตำรวจจะส่งมาให้ หากพยานหลักฐานสมบูรณ์ก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ทั้งนี้ยังพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะยังไม่เห็นข้อมูลใดๆ จากทางตำรวจที่ทำคดี ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเต็มที่ก่อน จึงจะสามารถให้ข้อมูลได้อีกครั้ง
ส่วนการที่ตำรวจดำเนินการคุมตัวอดีตพระพรหมเมธี ที่ประเทศเยอรมนี เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ประเด็นนี้ นายโกศลวัฒน์ ระบุต้องขอชี้แจงก่อนว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับทางสำนักงานอัยการ เพราะหากเกี่ยวข้องต้องเป็นการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามเเดน ต้องมีการสั่งฟ้อง อัยการจึงจะขอออกหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่ในกรณีนี้ เข้าใจว่าเป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจเยอรมัน ที่มีการส่งต่อข้อมูลและขอความร่วมมือระหว่างกัน เมื่อทางการเยอรมนีพบตัวอดีตพระพรหมเมธี ที่มีข้อมูลจากไทยว่าหลบหนีหมายจับ ก็ได้ปฏิเสธการเข้าประเทศ แม้อดีตพระพรหมเมธีมีวีซ่า แต่ประเทศต้นทางก็มีสิทธิ์จะปฏิเสธการเข้าประเทศได้ ก่อนจะประสานตำรวจไทยให้มารับตัวกลับ เป็นขั้นตอนตามกฎหมายอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย