ทีเอ็มบีปรับเป้าจีดีพีโตร้อยละ 4.5

 กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – ทีเอ็มบี ปรับจีดีพีปีนี้ขึ้นโตร้อยละ 4.5  แรงส่งจากเศรษฐกิจไตรมาสแรกโตดีกว่าคาด บวกส่งออกและลงทุนเอกชนขยายตัวดี


นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจธนาคารทหารไทย ( TMB Analytics) กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้  เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.5 จากเดิมโตร้อยละ 4.2  สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่เติบโตแข็งแกร่งโตร้อยละ 3.9 โดยมีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกที่โตร้อยละ 4.8 ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้น คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยที่ 71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเฉลี่ย 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ที่มีสัดส่วนรวมกันคิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าการส่งออกรวมขยับสูงขึ้นไปด้วย ทำให้ภาพรวมการส่งออกไทยขยายตัวร้อยละ 8.6 สูงกว่าเดิมที่คาดโตร้อยละ 4.8 

นายนริศ กล่าวว่า เครื่องยนต์สำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ คือ การลงทุนเอกชนขยายตัวเร่งขึ้นโตร้อยละ 4.4 สะท้อนจากการนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร อุปกรณ์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันมา 6 ไตรมาส ส่งผลการนำเข้าปีนี้ขยายตัวร้อยละ 12.6  บวกกับอัตราการใช้กำลังการผลิตในอุตสาหกรรมส่งออก เช่น ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ ปรับสูงขึ้นแตะระดับ 80 สอดคล้องกับความเชื่อมั่นภาคธุรกิจดีขึ้น จากการที่ประกาศใช้พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ช่วยผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุนหลายด้าน ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐขยายตัวร้อยละ 8.5 แม้จะแผ่วลงบ้างแต่ยังมีเม็ดเงินโครงสร้างพื้นฐานปีนี้ที่ 36,000 ล้านบาท ส่วนท่องเที่ยวยังโตต่อเนื่องคาดจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 38.5 ล้านคน โตร้อยละ 9


ส่วนการบริโภคภาคเอกชนกลับสู่ขาขึ้น คาดโตร้อยละ 3.4 การบริโภคสินค้าคงทนเริ่มกลับมาหลังจากปลดล็อคโครงการรถคันแรก รวมทั้งรายได้เกษตรที่ดีขึ้น แต่ยังไม่เข้มแข็งเพราะยังมีปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนกดดัน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำทำให้ผู้บริโภคกล้าเสี่ยงลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจไทยได้ อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1-2ครั้งปลายปีนี้ จากระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 1.50 ขณะที่ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่า สิ้นปีนี้มีโอกาสอยู่ที่ 31.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง 

ส่วนแนวโน้มสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ คาดขยายตัวร้อยละ 5.5 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์โตร้อยละ 5.3 จากการสินเชื่อเอสเอ็มอีที่โตร้อยละ 6.9 และ สินเชื่อรายย่อยโตร้อยละ 7.3 จากกำลังซื้อที่ปรับดีขึ้น และการทยอยลงทุนใช้เทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนผลิต ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล มีแนวโน้มลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.8 จากปีก่อนที่ร้อยละ 2.9 ผลจากเศรษฐกิจฟื้นตัว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด