กระทรวงคมนาคม 31 พ.ค. – คมนาคมเบรกขึ้นค่าโดยสารรถร่วม ขอความร่วมมือตรึงราคาไปก่อน
ในช่วงเช้าวันนี้ (31พ.ค.) นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคม ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วม ขสมก.) กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อยื่นหนังสือข้อเสนอและเรียกร้องขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถร่วม ขสมก.เพิ่มขึ้น 4 บาท ทั้งในส่วนของรถธรรมดา และรถปรับอากาศ โดยรถธรรมดาขอปรับขึ้นค่าโดยสารจาก 9 บาท เป็น 13 บาท ส่วนรถปรับอากาศซึ่งจะเก็บค่าโดยสารตามระยะทางนั้น ในส่วนของรถสีน้ำเงินขอปรับขึ้นจากระหว่าง 12-24 บาท เป็น 16-28 บาท รถสีเหลืองขอปรับขึ้นจากระหว่าง 13-25 บาท เป็น 17-29 บาท เนื่องจากราคาก๊าซเอ็นจีวีปรับเพิ่มขึ้น 0.62 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) ทำให้ปัจจุบันมีต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ประมาณ 10.67 บาทต่อกก. หรือคิดเป็นรถเมล์ร้อนมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ประมาณ 100 บาทต่อวันต่อคัน และรถเมล์ปรับอากาศเพิ่มประมาณ 200 บาทต่อวันต่อคัน พร้อมมองว่าที่ผ่านมาค่าโดยสารรถร่วม ขสมก. ไม่ได้เป็นไปตามกลไกตลาด และไม่ได้ปรับขึ้นเลยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จึงอยากให้รัฐบาลเข้าใจเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาคเอกชนต้องการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น
ส่วนในภาคบ่ายนางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง และเจ้าของกิจการอู่ต่อรถทัวร์และบริษัทเดินรถ เชิดชัย พร้อมด้วยผู้ประกอบการ รถร่วม บขส. เข้าพบ นายอาคม เพื่อชี้แจงเรื่องการขออนุมัติปรับขึ้นค่าโดยสาร ภายหลังจากที่เคยเดินทางมาเข้าพบรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยังยืนยันเช่นเดิมว่าจะเสนอรัฐบาลพิจารณาอนุมัติปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร 10 สตางค์ต่อกิโลเมตร (กม.) จากราคาดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น หากไม่ช่วยเหลือ ทางผู้ประกอบการก็อาจจะปรับลดเที่ยววิ่ง ซึ่งจะส่งผลให้บางเส้นทางมีรถวิ่งให้บริการเพียง 1 เที่ยววิ่ง/วัน หรืออย่างเส้นทางกรุงเทพฯนครราชสีมา จากเดิมที่มีเที่ยววิ่งจำนวน 300 เที่ยว/วัน อาจปรับลดเหลือ 200 เที่ยว/วัน เป็นต้น
ด้านนายอาคม กล่าวว่า กระทรวงฯ ขอความร่วมมือเรื่องยังไม่ปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันลดลงแล้ว ซึ่งทางสมาคมฯยินดีที่จะรอ จนกว่าผลการศึกษาโครงสร้างต้นทุนค่าโดยสารภาพรวมของกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) จะแล้วเสร็จใน 2 เดือน.- สำนักข่าวไทย