สมอ.ยกมาตรฐานหมวกกันน็อกเทียบมาตรฐานยุโรป

กรุงเทพฯ 28 พ.ค.- สมอ.กวดขันดูแลให้การผลิต นำเข้า จำหน่าย หมวกกันน็อก สำหรับผู้ใช้จักรยานยนต์ต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานใหม่ คือ  มอก. 369-2557 เทียบเท่ามาตรฐานยุโรป


นายอภิจิณ โชติกเสถียร เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงเพื่อกำกับดูแลผลิตภัณฑ์หมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อก สำหรับผู้ใช้จักรยานยนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 369-2557 เท่านั้น ซึ่งมาตรฐานนี้เทียบเท่ามาตรฐานหมวกกันน็อคที่ใช้อยู่ในสหภาพยุโรป ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2559 แต่สมอ.ได้ให้เวลาผู้แก่ผู้ผลิต นำเข้า ปรับตัวยืดเวลาบังคับออกมา 1 ปีมาเป็นวันที่ 28 สิงหาคม 2560 แทน 


ฉะนั้นหมวกกันน็อคที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ สิงหาคม 2560 เป็นต้นมา จะต้องมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน มอก. 369-2557 เท่านั้น 

นายอภิจิณ กล่าวแนะผู้ผลิต-นำเข้า จำหน่ายหมวกกันน็อกว่า หมวกกันน็อคต้องมีคุณภาพตามมาตรฐาน ห้ามผลิตหรือนำเข้าตามมาตรฐาน มอก. เก่า หากฝ่าฝืน จะมีโทษตามกฎหมาย  ด้านผู้บริโภคเอง หากพบหมวกกันน็อกที่ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐาน โปรดแจ้ง สมอ.จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)  กล่าว ที่ผ่านมาสมอ. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ผลิต จำหน่าย หมวกกันน็อกหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบการผลิตตาม มอก. เก่า (มอก. 369-2539) และมีการแสดงเครื่องหมายและฉลากไม่ถูกต้อง โดยผู้ประกอบการหลายรายยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมหมวกนิรภัยสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ มอก. 369-2557 เป็นจำนวนมาก โดยยังคงผลิตและติดเครื่องหมาย มอก. เก่า คือ มอก. 369-2539 ซึ่ง สมอ. ประกาศยกเลิกมาตรฐานเก่าไปแล้ว  


สถิติการสุ่มตรวจของสมอ. ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีงบ 61 สมอ.ออกสุ่มตรวจผู้ผลิตหมวกกันน็อคและผู้จำหน่าย พบว่า มีการจำหน่ายหมวกกันน็อคที่ไม่ได้มาตรฐานและดำเนินการยึดสินค้าและลงโทษตามกฎหมายไปแล้ว จำนวน 3 ราย หมวกกันน็อคยึดได้จำนวนรวม 3,000 ใบ 

สำหรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหมวกนิรภัยสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ใหม่ ตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 369-3557  เป็นมาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐานยุโรป มีการใช้ระบบทดสอบและปรับเปลี่ยนค่าคำนวณความปลอดภัย เทียบเท่ามาตรฐาน ECER22 โดยคำนึงถึงผลกระทบหลังจากผู้ขับขี่ประสบอุบัติเหตุ หากสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานก็จะช่วยลดความสูญเสียได้  

นายวันชัย กล่าวว่า  นับจากนี้ไป สมอ. จะดำเนินการตรวจติดตามผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายอย่างเข้มงวด และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทันที สำหรับบทลงโทษในกรณีทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ

รองเลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า  ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ และอย่าได้หลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อใช้แล้วอาจเกิดอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้ – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ