กรมควบคุมโรค 17 พ.ค. กรมควบคุมโรค รณรงค์ให้ประชาชนทราบค่าความดันโลหิต
เพื่อให้ตระหนักและป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
จากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี
พบผู้ป่วยโรคความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นจากประมาณ 3.9 ล้านราย เป็น 5.5 ล้านราย เหตุจากปัจจัยการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป
พร้อมขับเคลื่อนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการวัดค่าความดันโลหิตได้ง่ายมากขึ้น
แนะโรคดังกล่าวป้องกันได้ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลกกำหนดให้วันที่ 17
พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันความดันโลหิตสูงโลก เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของภาวะความดันโลหิตที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมาก โดยปี 2561
ทางสมาพันธ์ฯได้ใช้คำขวัญเพื่อการรณรงค์ที่ว่า “Know Your Numbers” หรือ “ท่านทราบระดับ ความดันโลหิตของท่านหรือไม่” โดยให้ความสำคัญกับการให้ประชาชนทราบค่าความดันโลหิตของตนเอง นำไปสู่การป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
สถานการณ์โรคความดันโลหิตสูงของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากอดีต
โดยข้อมูลจาก ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า
ประเทศไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี
2556 – 2560) อัตราป่วยโรคความดันโลหิตสูงต่อประชากรแสนคน
เพิ่มขึ้นจาก 12,342 (จำนวน 3,936,171 ราย) เป็น 14,926 (จำนวน 5,597,671 ราย)
โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัจจัยการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น การรับประทานที่มีรสเค็มจัด
หรือทานของทอดมากเกินไป ขาดกิจกรรมทางกายหรือขาดการออกกำลังกาย และ มีปัจจัยเสี่ยงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคมุ่งมั่นรณรงค์
ประชาสัมพันธ์ความรู้และสร้างความตระหนักและสนับสนุนให้ประชาชนมีความฉลาดรอบรู้ด้านสุขภาพ
โดยเฉพาะด้านบริโภคอาหารที่เหมาะสม และ
การออกกำลังกาย
โดยปีนี้ กรมควบคุมโรคพยายามให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
คือ อายุมากกว่า 35 ปี
ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
หรือผู้ที่มีภาวะอ้วน สามารถเข้าถึงการวัดความดันโลหิต ให้มากขึ้น เพื่อทราบค่าความดันโลหิตของตนเองและตระหนักถึงอันตรายของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ขณะนี้กรมควบคุมโรคมีการขับเคลื่อนให้เกิดการวัดความดันโลหิตที่บ้าน
และยังมีโครงการวัดความดันโลหิตที่ธนาคารที่เป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงการวัดความดันโลหิต
ลดช่องว่างและความยุ่งยากของการเดินทางไปตรวจวัดที่สถานพยาบาล
นายแพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคความดันโลหิตสูงนั้น เป็น “ฆาตกรเงียบ”
ที่ซ่อนเร้นในร่างกาย
หากขาดการตรวจคัดกรองจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
และโรคหลอดเลือดสมอง แต่โรคความดันโลหิตเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยหลัก
คือ “3 อ 2 ส” อ.-อาหาร คือ
ทานอาหารแต่พอดี งดทานอาหารหวาน มัน เค็มจัด อ.-ออกกำลังกาย
โดยออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วันหรืออย่างต่ำสัปดาห์ละ 150 นาที อ.-อารมณ์
คือ ทำจิตใจให้แจ่มใส ส.-ไม่สูบบุหรี่ และ
ส.-ลดการดื่มสุราเบียร์และเครื่องดื่มมึนเมา ที่สำคัญ ควรตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ
เพื่อให้ทราบระดับของตนเองและป้องกันโรค
โดยทางสมาพันธ์ความดันโลหิตโลกกำหนดค่าความดันโลหิตที่เหมาะสม คือ ตัวบน (ค่าความดันขณะหัวใจบีบตัว:Systolic)
ไม่ควรเกิน 120 ค่าตัวล่าง (ค่าความดันขณะหัวใจคลายตัว:Diastolic)
ไม่ควรเกิน 80 หรือที่นิยมกล่าวคือ ไม่เกิน 120/80 สิ่งที่ควรทำเป็นประจำเพื่อประเมินสุขภาพ คือ
การชั่งน้ำหนัก และการวัดรอบเอว เป็นต้น
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 .-สำนักข่าวไทย