ศาลสั่งรื้อ 5 ตลาดคดี ‘ป้าทุบรถ’ใน60 วัน พร้อมเยียวยา

กทม.16 พ.ค.-ศาลปกครองกลาง ตัดสินให้ ‘ป้าทุบรถ’ ชนะคดี กทม. ต้องจ่ายค่าสินไหมชดเชยทั้ง 4 คน รวมกว่า 1.47ล้านบาท พร้อมสั่งรื้อ5 ตลาด ใน 60 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด  


วันนี้(16พ.ค.) เวลา10.30 น.ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ องค์คณะแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ และสมาชิกครอบครัวแสงหยกตระการ รวม 4 คน ผู้ที่พักอาศัยในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ย่านสวนหลวง ร.9 ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.), ผู้อำนวยการเขตประเวศ, สำนักงานเขต และ กทม. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 กรณี ปล่อยให้เกิดการสร้างตลาด 5 แห่งได้แก่ ตลาดสวนหลวง , ตลาดรุ่งวานิชย์,ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต, ตลาดยิ่งนรา และตลาดร่มเหลือง รอบบ้านพักโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  

องค์คณะตุลาการอ่านคำพิพากษา ว่า การยื่นขอก่อสร้างอาคารและตลาด 5 แห่ง บริเวณข้างบ้านผู้ฟ้องทั้งสี่ในหมู่บ้านเสนีวิลล่า และการอนุญาตให้สร้างนั้น ผิดวัตถุประสงค์การจัดสรรที่ดินในโครงการที่ให้ก่อสร้างเพื่อที่พักอาศัยเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ และผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้มีคำสั่งให้รื้อถอนออกไป จึงถือว่าละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ประกอบกับผู้อำนวยการเขตประเวศ  ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มิได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องกับตลาดพิพาททั้ง 5 แห่ง ปล่อยปละละเลยให้มีผู้จำหน่ายสินค้าบริเวณหน้าบ้าน น.ส.บุญศรีกับพวก


เมื่อนับเวลาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ที่มีการก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นตลาดแห่งแรกในคดีนี้ จนถึง พ.ศ.2561 ที่เกิดเหตุการณ์ทุบรถจอดกีดขวางหน้าบ้าน น.ส.บุญศรีกับพวก นับเป็นระยะเวลาประมาณ 7 ปีเศษไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อีกทั้งยังเป็นการกระทำละเมิดสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี ทำให้ น.ส.บุญศรี กับพวกทั้งสี่ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายและต้องตกอยู่ในภาวะทนทุกข์ทรมานทางด้านจิตใจมาเป็นระยะเวลานาน ศาลจึงมีคำพิพากษา ดังนี้ 

1.เพิกถอนหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคารตลาดที่ผู้ว่าฯ กทม. ออกให้กับผู้ประกอบการตลาดสวนหลวง,ตลาดรุ่งวานิชย์, ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ,ตลาดยิ่งนรา โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันออกใบรับหนังสือ แจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคารแต่ละฉบับดังกล่าว  

2.ให้ผู้ว่าฯ กทม.และ ผอ.เขตประเวศ ดำเนินการให้ผู้ประกอบการรื้ออาคารตลาดรอบบ้าน น.ส.บุญศรี ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด  


3.ให้ผู้ว่าฯ กทม. ผอ.เขตประเวศ และสำนักงานเขตประเวศ ดำเนินการพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มิให้ผู้หนึ่งผู้ใดก่อเหตุรำคาญ และควบคุมดูแลมิให้มีผู้จำหน่ายสินค้าในที่ หรือทางสาธารณะบริเวณ หน้าบ้าน น.ส.บุญศรี ภายใน 30วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด 

4.ให้ผู้ว่า กทม.ผอ.เขตประเวศ และสำนักงานเขตประเวศ สอดส่องกวดขันมิให้ผู้ใดจำหน่ายสินค้าบนถนนและทางเท้าบริเวณหน้าบ้านผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด  

5.กทม.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ น.ส.บุญศรี กับพวก เป็นเงินรายละ 368,400 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 1,473,600 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี  นับตั้งแต่วันที่ 30ก.ย.2556 ที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 60วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด 

และ 6.ให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมีผลบังคับอยู่ต่อไปจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด 

ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส.บุญศรี กล่าวน้ำตาคลอว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตาพอใจกับคำพิพากษาในส่วนค่าเสียหายไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อ อยากให้ ฝ่าย กทม.พิจารณาเหมาะสมหรือไม่ที่จะอุทธรณ์คดีเนื่องจากความเดือดร้อนที่ได้รับยาวนานมาตลอด7ปี เป็นความทุกข์ที่เเสนสาหัส หลังจากนี้จะนำคำพิพากษาพร้อมคำสั่งคุ้มครองในวันนี้ไปติดที่หน้าบ้าน ส่วนคดีอาญาทุบรถก็จะนำคำพิพากษาในส่วนนี้ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการประกอบการพิจารณาสั่งคดี .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ