สำนักข่าวไทย 14 พ.ค. – กทม.เผยแนวคิดบริหาร หอศิลปฯกทม.เอง ทุกอย่างเหมือนเดิม ย้ำใครบริหารก็เหมือนกัน แค่ต้องการให้เกิดประโยชน์ใช้สอยพื้นที่สูงสุด และเป็นภาระน้อยที่สุด ปัดตอบให้ผู้บริหารชุดเดิมนั่งทำงานต่อ
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะรองประธานกรรมการที่ปรึกษาหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า กทม.มีแนวคิดเตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จากมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ไปบริหารเอง โดยมอบให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เป็นผู้บริหารจัดการดูแลหอศิลป์ แทนที่มูลนิธิฯ ว่า หลักการของการบริหาร กทม. ก็มอบให้มูลนิธิฯบริหาร และให้เงินอุดหนุนปีละประมาณ 40 ล้านบาท แต่จากการที่ท่านผู้ว่าฯกทม.เดินทางไปที่หอศิลปฯพบว่า มีเด็กนอนอ่านหนังสือกับพื้น ติวการบ้านกับพื้น จึงเกิดความคิดว่าทำไมจึงไม่มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับเด็กๆ และประชาชน หรือการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากกว่านี้ ดีกว่าปล่อยพื้นที่ให้ว่างเปล่าเพราะถ้าหากช่วงที่ไม่มีงาน ก็จะไม่มีคน พื้นที่ก็จะร้าง
ส่วนเงินอุดหนุนที่ กทม.ต้องให้ในทุกปีปีละประมาณ 40 ล้านบาท นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ปีนี้ กทม.ไม่ได้ให้ ก็เพราะว่าสภา กทม.ไม่เห็นด้วย ส่วนข่าวที่ออกไปในแง่ลบ เข้าใจว่าคงเป็นการนำเสนอข่าวในลักษณะต้องการสร้างประเด็น ว่าจะไปยึด คงไม่ได้มองแบบนั้น ยืนยันว่าลักษณะ หลักการใช้สอยหอศิลปฯยังคงเป็นไปในลักษณะเดิม
“คือตอนนี้ทางสภา กทม. ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ กทม.ใช้งบประมาณในลักษณะแบบนี้ จึงมีการพูดคุยกันในภาพรวมว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ กทม.จะนำหอศิลปฯมาบริหารเอง โดยกำหนดหลักเกณฑ์ กรอบการบริหารขึ้นมาใหม่ ยืนยันว่าการใช้งานของหอศิลปฯจะยังคงไว้ภายใต้คอนเซ็ปเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ศิลปินได้นำงานมาโชว์เหมือนเดิม ร้านค้าเหมือนเดิม แค่จะทำให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ทุกกลุ่ม ทุกวัยจะได้เข้ามาใช้สอย ตรงนี้ใครจะบริหารก็เหมือนกันแหละ เพียงแต่ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด และทำให้ กทม.เป็นภาระน้อยที่สุด” นายทวีศักดิ์ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กทม.แค่ต้องการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากกว่าเดิม และบอกว่าใครบริหารก็เหมือนกัน ผู้บริหารชุดเดิมที่ทำอยู่ก็ทำได้หรือไม่ นายทวีศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ๆเพราะเรื่องนี้ต้องมาคุยกัน ว่าจะสามารถทำอะไร เปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง โดยที่ กทม.เป็นภาระน้อยที่สุด และพื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมผู้บริหาร กทม.พรุ่งนี้(15 พ.ค.)จะมีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม และจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น. –สำนักข่าวไทย