กทม.เล็งคืนทางเท้าหน้าห้างย่านลาดพร้าวให้ประชาชน

กทม.12 พ.ค.-กทม.ลุยตรวจป้ายผิดกฎหมายถนนพหลโยธิน พร้อมเล็งคืนทางเท้า หน้าห้างสรรพสินค้า ย่านลาดพร้าวให้ประชาชน


นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัด กทม.นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจและสำนักงานเขตจตุจักร ลงพื้นที่สำรวจป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย จากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ต่อเนื่องถึงแยกเกษตร 


รองผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับป้ายที่ติดตั้งผิดกฎหมายในที่สาธารณะทุกชนิดอย่างเข้มงวดโดยให้ทำการรื้อถอนออกให้หมด ส่วนป้ายที่อยู่ในพื้นที่เอกชนก็ใช้มาตรการของภาษีในการตรวจสอบ 

ส่วนประเด็นที่มีการร้องเรียนจากพรรคการเมืองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือ ไม่เป็นธรรมนั้น กทม.ต้องเรียนว่าหนังสือที่สำนักงานเขตหลักสี่แจ้งไปนั้น อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากเรื่องป้ายผิดกฎหมาย กทม.ได้ทำหนังสือสั่งการโดยกำชับในกรณีป้ายผิดกฎหมายเท่านั้น ซึ่งรวมถึงป้ายเอกชน ป้ายคำอวยพรเทศกาลต่างๆ และป้ายอดีตนักการเมือง เป็นต้น เบื้องต้นต้องไปดูจุดที่ร้องเรียนว่าป้ายมีความถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าผิดกฎหมาย กทม.สามารถรื้อถอนออกได้ตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าป้ายนั้นขออนุญาตถูกต้อง กทม.ก็ไม่สามารถจะไปรื้อออกได้ 


ทั้งนี้ ที่เลือกลงพื้นที่จตุจักรเป็นจุดแรก เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนว่าในพื้นที่นี้พบป้ายโฆษณาที่อยู่อาศัย คอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ เป็นจำนวนมาก หลังได้รับแจ้ง เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเฉพาะถนนพหลโยธิน พบว่ามีป้ายผิดกฎหมายมากกว่า 50 ป้าย ผู้ว่าฯ กทม.จึงสั่งการให้สำรวจป้ายผิดกฎหมายทั้ง 50 เขตอีกครั้ง ซึ่งไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใดเพราะ กทม.ดำเนินการในทุกเขตอย่างเท่าเทียมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ภายใต้กฎหมายที่กำหนด

รองปลัด กทม.กล่าวต่อไปถึงมาตรการของ กทม.ด้วยว่า จะดำเนินการจากเบาไปหาหนัก โดย กทม.ได้ทำหนังสือย้ำเตือนแนวทางการปฏิบัติไปยังเจ้าหน้าที่เขต ซึ่งก็จะทำหนังสือแจ้งในกรณีที่รู้ว่าป้ายผิดกฎหมายเป็นของผู้ใด แต่เนื่องจากบางป้ายมีการทำลอกเลียนแบบป้ายที่ถูกกฎหมายและไม่รู้เป็นของผู้ใด ซึ่งป้ายนั้น ก่อให้อาจเกิดอันตรายกับประชาชนก็จะดำเนินการรื้อออกทันที อย่างไรก็ตาม กทม.ไม่นิ่งนอนใจ เพียงแต่ขณะนี้กำลังพยายามหาเจ้าของป้ายผิดกฎหมายที่แท้จริงให้เจอก่อนเพื่อจะทำการแจ้งไป แต่เนื่องจากบางรายก็ไม่ยอมรับว่าป้ายผิดกฎหมายเป็นของตน เพราะในป้ายไม่ได้ระบุข้อความว่าใครเป็นเจ้าของป้าย ทำให้ กทม.จำเป็นต้องเลือกรื้อถอนป้ายผิดกฎหมายที่ไม่มีเจ้าของก่อนหรือมีเจ้าของ แต่แจ้งไปแล้วไม่ดำเนินการเป็นอันดับแรก เบื้องต้นให้เวลาเขตทั้ง 50 เขต ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 อาทิตย์ พร้อมรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้ผู้บริหารทราบต่อไป

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมกรณีผู้ค้าบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งมีการร้องเรียนจากประชาชนถึงความไม่เป็นระเบียบ อีกทั้งยังพบว่าบางรายตั้งแผงค้าล้ำเข้าไปในพื้นผิวจราจร ทำให้ประชาชนที่สัญจรบนทางเท้าได้รับความลำบาก จึงเชิญสำนักเทศกิจและสำนักงานเขตจตุจักร ลงพื้นที่เพื่อสำรวจสถานที่ดังกล่าว ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ประชาชนทั่วไปไม่ทราบ คิดว่าเป็นของ กทม.เมื่อเกิดปัญหาก็จะร้องเรียนมาที่ กทม.ซึ่งผู้ว่าฯกทม. เห็นว่าถ้าปล่อยไว้อาจทำให้เสียชื่อเสียงของกทม.เบื้องต้นจะประสานไปยังการรถไฟ เพื่อหารือว่าจะมอบพื้นที่ให้ กทม.ดำเนินการหรือการรถไฟจะดำเนินการเอง หากการรถไฟจะดูแลต่อก็ต้องทำให้เรียบร้อย เหมาะสม โดย กทม.จะทำหนังสือเชิญการรถไฟ และผู้ค้า ร่วมประชุมเพื่อหาทางออกในการคืนทางเท้าให้ประชาชนต่อไป  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]