จ.นครปฐม 3 พ.ค.-พศ.แถลงภรรยา ผอ.พศ.ผ่านหลักเกณฑ์คัดเลือก ร่วมคณะเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานที่อินเดีย-เนปาลอย่างถูกต้อง ด้านเครือข่ายพุทธฯ ถามถึงความเหมาะสมใช้โควต้า พศ.-ไม่เคยได้ยินชื่อทำงานด้านนี้ เตรียมนำข้อมูลยื่น ปปป.-สตง.
จากกรณีที่องค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) พร้อมด้วยเครือข่ายชาวพุทธ นำหลักฐานเข้ายื่นต่อสำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติ(พศ.)ขอให้ตรวจสอบกรณีนางกนิษฐา พราหมณ์เสน่ห์ ภรรยาของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ.ที่ได้ร่วมคณะเดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบลอินเดีย-เนปาล ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-5 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ใช้งบประมาณของ พศ.เข้าข่ายผิดวินัย เอื้อประโยชน์ให้กับครอบครัว และผิดกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่นั้น
บ่ายวันนี้ (3 พ.ค.) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ในฐานะโฆษก พศ.กล่าวว่า ปี 2561 พศ.ได้รับจัดสรรงบเงินอุดหนุนเจ้าคณะปกครองสงฆ์ พระภิกษุสามเณรและบุคลากรผู้สนับสนุนงานด้านพระพุทธศาสนา ศึกษาดูงาน สักการะสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดียและเนปาล จำนวน 5 ล้านบาท จากสำนักงบประมาณ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 พศ.จึงได้มีประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลที่จะไป ประกอบด้วย พระสงฆ์ สามเณร บุคลากรผู้สนับสนุนงานด้านพระพุทธศาสนา โดยนางกนิษฐา เป็นบุคคลหนึ่งที่สนับสนุนและทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จึงมีคุณสมบัติตรงตามประกาศและวัตถุประสงค์ของการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว และที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือก ฝ่ายเลขานุการได้เสนอชื่อนางกนิษฐา และมีมติคัดเลือกให้ไปศึกษาดูงานสักการะสังเวชะนียสถานได้ โดยในอดีตเคยมีการจัดสรรงบในลักษณะนี้เป็นประจำทุกปี
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงข้างต้น จึงสรุปได้ว่าการเดินทางไปศึกษาดูงานสักการะสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดียและเนปาล ของนางกนิษฐา เป็นไปอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการจัดสรรงบประมาณและถูกกฎหมาย และมีการกำหนดกระบวนการคัดเลือก ประกาศล่วงหน้า และมีคณะกรรมการคัดเลือก ที่ไม่ได้เลือกตามอำเภอใจ
นายสิปป์บวร กล่าวต่อว่า สำหรับการร้องเรียนแพร่ข่าวข้างต้นอาจเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลอื่นและอาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตลอดจนความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษถึงจำคุกได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อแถลงเสร็จนายสิปป์บวร ก็ออกจากห้องแถลงข่าวทันที โดยไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ด้านนายวิชัย ประเสริฐสุดสิริ ผู้ประสานงานองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา(อสคพ.)ให้สัมภาษณ์หลังรับทราบการแถลงข่าวของ พศ.ว่า ประเด็นการเดินทางไป โดยระบุว่าเป็นไปอย่างถูกระเบียบแต่ถามกลับว่าการที่ภรรยาผอ.พศ.ได้ร่วมเดินทางไป โดยใช้โควต้าพศ.นั้น มีความเหมาะสมหรือไม่ ในฐานะที่ทำงานในแวดวงพระพุทธศาสนา ไม่เคยได้ยินชื่อของนางกนิษฐาว่าเป็นบุคคลที่เข้ามาได้สนับสนุนงานด้านพระพุทธศาสนามาก่อน
ส่วนกรณีที่ พศ.ระบุว่าการร้องเรียน ของ อสคพ.อาจเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลอื่นและอาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตลอดจนความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นั้น ขอชี้แจงว่า การใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่น่าเข้าข่ายการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เนื่องจากเป็นหลักฐานที่ได้มาโดยถูกต้อง หลังจากนี้จะนำข้อมูลยื่นให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ตรวจสอบเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย