สสว.โชว์สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัดเพิ่มรายได้-ผลิตภาพ ร้อยละ 21.06 ต่อปี

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – สสว.เปิดตัว“สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด” 222 กิจการ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ระบุ ช่วยเพิ่มรายได้และผลิตภาพ ร้อยละ 21.06 ต่อปี สานต่อปี 60


สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)โชว์ผลสำเร็จโครงการ “สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด” (SME Provincial Champions) ” ที่ช่วยเพิ่มรายได้และผลิตภาพแก่เอสเอ็มอีถึง ร้อยละ 21.06 ต่อปี โดยมี นางอรรชกา  สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตร พร้อมให้นโยบายในการที่ผู้ประกอบการจะยกระดับให้เป็น SME 4.0

นางอรรชกา กล่าวว่า เอสเอ็มอี ที่เข้าร่วมโครงการ “สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด” จะเป็นตัวอย่างที่เป็นแรงจูงใจให้เอสเอ็มอีรายอื่น ๆ ในภูมิภาคทั่วประเทศตื่นตัวที่จะยกระดับ การบริหารจัดการให้เป็นสากล  และการนำนวัตกรรมมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้เป็นที่พึงพอใจของตลาดมากขึ้น


ส่วนการก้าวสู่ Industry 4.0 ตามนโยบาย Thailand 4.0 การพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ให้พัฒนาไปสู่การเป็น SME 4.0 จำเป็นต้องใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย โดยอาศัยงานด้านวิจัยและพัฒนา และความคิดเชิงสร้างสรรค์เข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมกับการลดต้นทุนการผลิต การยกระดับผลิตภาพที่สูงขึ้น และการก้าวสู่ Industry 4.0 ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างอุตสาหกรรมใหม่ขึ้นในประเทศ ซึ่งหมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริม หรือ  S-CURVE 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ Thailand 4.0 ในอนาคตข้างหน้า

 

นางอรรชกา กล่าวว่า การก้าวสู่ SME 4.0  มีความสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศก้าวพ้นการติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางที่มีรายได้ต่อคนต่อปีระดับ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็นกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)เพิ่มขึ้น


นางสาลินี  วังตาล ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า ในปี 2559 “โครงการ “สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด” (SMEs Provincial Champions)  คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการรวม 222 กิจการ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ  โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่  กลุ่มที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ (Start up)  กลุ่มที่มีศักยภาพในการตลาด (Rising Star)  และกลุ่มที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว (Turn Around)

ทั้งนี้หลังจากที่ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการแล้ว พบว่า ในภาพรวมของโครงการสามารถเพิ่มรายได้และผลิตภาพ ร้อยละ 21.06 ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ พบว่า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้รวม 22,047.17 ล้านบาท  และเมื่อผ่านกระบวนการพัฒนาภายใต้โครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด  ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น 4,642.43 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มมีรายละเอียด ดังนี้ กลุ่ม Start Up มีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้นสูงสุด ร้อยละ 30.57 ต่อปี รองลงมาเป็น กลุ่ม Rising Star มีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.04 ต่อปี และกลุ่ม Turn Around สามารถมีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.61 ต่อปี

จากผลสำเร็จของโครงการในปี 2559  สสว. จะดำเนินโครงการ SMEs Provincial Champions ต่อไปในปี 2560  จังหวัดๆ ละ 6 ผู้ประกอบการ ใน 77 จังหวัด หรือประมาณ 462 ราย โดยจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีนวัตกรรมตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสินค้าได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับที่สูงขึ้น  รวมถึงพัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ  และสร้างโอกาสด้านการตลาดเพื่อส่งเสริม SME ไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล โดยสสว.เตรียมขอการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มเติมให้เพียงพอ

สำหรับ “โครงการ “สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด” (SMEs Provincial Champions)   เป็นความริเริ่มของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา  ซึ่งเป็นประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2558  มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นให้ SME ในภูมิภาคทั่วประเทศตื่นตัวที่จะยกระดับ การบริหารจัดการให้เป็นสากล  และการนำนวัตกรรมมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้เป็นที่พึงพอใจของตลาดมากขึ้น  เป็นโครงการที่ดำเนินการร่วมกันระหว่าง สสว. กับภาคีภาครัฐและเอกชน

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะเข้ารับการฝึกอบรมพัฒนาองค์ความรู้ ด้านการวางกลยุทธ์องค์กร แผนฟื้นฟูกิจการ การให้คำปรึกษาแนะนำ ณ สถานประกอบการ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแบบเชิงลึก และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกับตลาด โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยกระทรวงพาณิชย์ ในการตรวจประเมินและวินิจฉัยสถานประกอบการเชิงลึก พบว่ากลุ่ม Start Up ให้ความสำคัญกับการเพิ่มยอดขายมากกว่าการเพิ่มผลิตภาพ เนื่องจากการผลิตยังไม่เต็มกำลังการผลิต

ดังนั้นแนวทางในการพัฒนาส่วนใหญ่จึงเป็นการพัฒนา Product ให้ได้มาตรฐาน การพัฒนา Packaging รวมทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะช่วยเพิ่มยอดขายเป็นหลัก ส่วนในกลุ่ม Rising Star เป็นกลุ่มที่มีความชำนาญในการขายอยู่แล้ว มีความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต หรือลดต้นทุนผลิต กลุ่ม Turn Around เป็นกลุ่มที่ประสบปัญหาด้านยอดขาย และด้านการเงิน ดังนั้น  การพัฒนาจึงต้องดำเนินการพร้อมกันในหลายด้านทั้งการเพิ่มยอดขาย การเพิ่มผลิตภาพการผลิต และการหาแหล่งเงินทุนเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งทางที่ปรึกษาได้ประสานงานกับธนาคารในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]