กรุงเทพฯ 27 เม.ย. – ผู้ว่าธปท. ชี้เศรษฐกิจชุมชน เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย ฟื้นตัวเปราะบาง เหตุมีภาระหนี้ครัวเรือนกดดัน
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/61 เห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว กระจายตัวหลายอุตสาหกรรม ทั้งผู้ประกอบการขนาดใหญ่ขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ยังต้องติดตามตัวเลขการนำเข้า ซึ่งขณะนี้ขยายตัวดีขึ้น มีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตขั้นกลางมากขึ้น รวมทั้งการนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร ซึ่งสะท้อนว่าการส่งออกและการผลิตขยายตัวดี อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจบางกลุ่ม ยังคงเปราะบาง เช่นเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาล ก็ได้ให้ความสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจชุมชน โดยมีการจัดสรรงบกลางปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและฐานรากในหลายโครงการ รวมทั้งมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณสู่ท้องถิ่น
ส่วนภาวะหนี้ครัวเรือน แม้สัดส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ( จีดีพี) จะลดลง แต่หนี้ครัวเรือนเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อยยังอยู่ในระดับสูง ต้องเผชิญปัจจัยลบหลายด้าน เช่น ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ภัยแล้ง ซึ่งแม้ว่าหนี้ครัวเรือนกลุ่มนี้จะไม่ใช่ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจมหภาค แต่มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายพื้นที่
นายวิรไท กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะสหรัฐ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นนั้น ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อตลาดการเงินไทย เพราะปัจจุบันสภาพคล่องในประเทศและธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับสูง จึงไม่ใช่สิ่งที่กังวลมากนัก อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ได้เตือนนักลงทุน หรือ ประชาชนที่กู้เงินต่างประเทศ ต้องระวัง ต้นทุนทางการเงินที่ปรับ เพิ่มขึ้นจากภาวะดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
“เงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนตามความเสี่ยง ส่วนอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ แม้จะเห็นการปรับขึ้นบ้าง แต่ยังต่ำกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่รับรู้อยู่แล้ว”นายวิรไท กล่าว .- สำนักข่าวไทย