ปั๊มในเมืองชั้นในแห่ปิดตัวหลังพื้นที่คอนโดฯ ขยาย

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – ปั๊มน้ำมันและก๊าซฯ ในเมืองลดลง เหตุคอนโดมิเนียมแย่งพื้นที่ ส่วนยอดใช้น้ำมันไตรมาส 1 พุ่งตามภาวะเศรษฐกิจ


นางอุษา ผ่องลักษณา รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ปั๊มเชื้อเพลิงทั้งน้ำมันและก๊าซในพื้นที่เมืองชั้นในขณะนี้ยอมรับว่าลดน้อยลงตลอดและกลายเป็นคอนโดมิเนียมในหลายแห่ง ซึ่งจากที่กรมฯ ได้สำรวจความเห็นของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน พบว่า ยังไม่ต้องการทำปั๊มใต้คอนโดมิเนียมเช่นเดียวกับต่างประเทศ แต่จะไปก่อสร้างปั๊มในพื้นที่นอกเมืองทดแทน  ดังนั้น กรมฯ จึงยังไม่ออกระเบียบเรื่องการจัดตั้งปั๊มน้ำมันใต้คอนโด เพียงแต่ผู้ใช้ในเมืองคงสะดวกน้อยลง เพราะต้องออกไปเติมนอกเมือง 

“หลายพื้นที่ใน กทม.ด้านในทั้งปั๊มก๊าซฯ ปั๊มน้ำมันปิดตัวลงและกลายเป็นคอนโดมิเนียม คนซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร บางครั้งก็ใช้กลยุทธ์แจ้งว่าปั๊มสร้างความเดือดร้อน ผิดกฎระเบียบต่าง ๆ มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็แจ้งให้กรมฯ ไปตรวจสอบบ่อย ๆ บางทีเจ้าของปั๊มรำคาญขายที่ดิน รูปแบบเช่นนี้ทำให้ปั๊มในเมืองด้านในลดน้อยลง” นางอุษา ระบุ


สำหรับปั๊มบริการเชื้อเพลิงทั้งน้ำมันและก๊าซฯ ในเขต กทม.ไตรมาส 1/2561 มี 900 แห่ง เพิ่มขึ้น 11 แห่ง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1/2560 โดยยอดจดทะเบียนยกเลิกกิจการมีถึง 18 แห่ง และจดทะเบียนเพิ่ม 20 แห่ง ซึ่งที่ลดลงก็เป็นพื้นที่ด้านในเป็นหลัก 

ส่วนปั๊มบริการน้ำมันและก๊าซฯ ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น จาก 26,691 แห่ง เป็น 27,710 แห่ง เมื่อเทียบไตรมาส 1 ของช่วงปี 2560 และ 2561 แต่หากแยกเป็นปั๊มเอ็นจีวีพบว่าลดลง 1 แห่ง เหลือ 461 แห่ง ส่วนปั๊มแอลพีจีลดลง 11 แห่ง เหลือ 2,082 แห่ง ซึ่งยอดปั๊มก๊าซพบว่ายอดปิดตัวลดลง เนื่องจากหลายแห่งปรับตัวขายน้ำมันร่วมด้วย รวมทั้งร้านค้าสะดวกซื้อ ทำให้ดำเนินธุรกิจอยู่ได้  


สำหรับการใช้น้ำมันไตรมาส 1/2561 พบว่าเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและการเดินทาง น้ำมันกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 30.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ดีเซล 67 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 โดยเฉพาะเดือนมีนาคมนั้น ยอดใช้ดีเซลหน้าปั๊มเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 68.9 ล้านลิตรต่อวัน อย่างไรก็ตาม ยังประเมินว่ายอดใช้เฉลี่ยของดีเซลปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 65 ล้านลิตรต่อวัน และการใช้น้ำมันภาพรวมของประเทศจะขยายตัวร้อยละ 5.1 ขณะที่ยอดใช้ก๊าซเพื่อการขนส่งทั้งเอ็นจีวีและแอลพีจีลดลง อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็ทำให้ยอดใช้ก๊าซลดลงไม่มากนัก เมื่อเทียบกับช่วงราคาน้ำมันถูกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  ส่วนการใช้แอลพีจีเฉลี่ยต่อวันของไตรมาส 1/2561 อยู่ที่ 17.8 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ  9.5 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้ทุกภาคยกเว้นภาคขนส่งที่มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.4 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 10.8 (โดยรถยนต์ที่ใช้แอลพีจี เหลือประมาณ 1,082,439 ลดลงร้อยละ 7.7) ส่วนแอลพีจี ปิโตรเคมีใช้เพิ่มขึ้นสูงที่สุดอยู่ที่ 6.5 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.9  ภาคอุตสาหกรรมใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.9 ล้าน กก./วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และภาคครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.1 ล้าน กก./วัน

ส่วนการใช้เอ็นจีวีไตรมาสที่ 1/2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 6.5 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 8.3 เป็นผลต่อเนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี 2559 ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยมา และส่งผลให้มีสถานีบริการเอ็นจีวีทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรถยนต์จดทะเบียนใหม่ประเภทเชื้อเพลิงเอ็นจีวีลดลงคิดเป็นร้อยละ 3.1 เหลือ 387,792 (อ้างอิงข้อมูลกรมการขนส่งทางบก)

สำหรับการนำเข้าส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศของไตรมาสที่ 1/2561 เฉลี่ยนำเข้าน้ำมันดิบ 979,061 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0  มูลค่า 63,451 ล้านบาท/เดือน ,น้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 64,553 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 4.9 มีมูลค่า4,307 ล้านบาท/เดือน โดยพบว่ามีการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน และแอลพีจีเพิ่มขึ้น ขณะที่ดีเซลพื้นฐาน เตา และอากาศยาน มีการนำเข้าลดลง สำหรับการนำเข้า แอลพีจีมีปริมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 57,323 ตัน/เดือน คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 เนื่องจากความต้องการใช้แอลพีจีมีเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวของปีก่อน คิดเป็น ร้อยละ 9.5 สำหรับการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 191,655 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 30.1 โดยพบว่ามีการส่งออก เบนซิน ดีเซลพื้นฐาน น้ำมันอากาศยาน น้ำมันเตา และแอลพีจีปริมาณที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ช่วงไตรมาสที่ 1/2561 มีการปิดซ่อมบำรุงบางส่วนของโรงกลั่นบางจากฯ และพีทีทีจีซี  รวม 26 วัน และโรงแยกก๊าซ 15 วัน โดยมีจำนวนวันปิดซ่อมบำรุงน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีจำนวนวันปิดซ่อมบำรุงรวม 99 วัน จึงส่งผลให้มีปริมาณการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปประเภท ดีเซลพื้นฐาน เตา และ อากาศยานลดลง ขณะที่การนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐานมีปริมาณมากขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นยังคงมีข้อจำกัดในการผลิตน้ำมันเบนซินพื้นฐานประเภท GBASE 2 ซึ่งเป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานเพื่อใช้ในการผสมเพื่อผลิต GSH95 E20 และ E85 ได้ ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันแก๊สโซฮฮล์ประเภทดังกล่าวปริมาณการใช้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีการนำเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]