ม.รังสิต 23 เม.ย.-สุริยะใสชี้คสช.มีสิทธิตั้งพรรค แต่รูปแบบวิธีการต้องสร้างความหวัง แนะดูบทเรียนการดูดส.ส.ในอดีต ทำให้การเมืองล้มเหลว
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิตและผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึง การดูดส.ส.กลุ่มต่าง ๆ เพื่อตั้งพรรคการเมืองขนาดใหญ่ว่า แม้จะเป็นเรื่องปกติในวิถีการเมืองไทยที่ทำกันมาแทบทุกยุคสมัย เพื่อช่วงชิงอำนาจการเมือง แต่ไม่ควรมองข้ามบทเรียนในอดีตที่มักจะเป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจ ที่อาจประสบความสำเร็จในช่วงสั้น ๆ แต่ระยะยาวล้มเหลว
นายสุริยะใส กล่าวว่า พรรคที่จะตั้งเพื่อสนับสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ต้องศึกษาบทเรียนจากอดีต ที่สำคัญถ้าตั้งธงจะปฏิรูปประเทศกันหลังเลือกตั้งหรือสานต่องานปฏิรูปที่รัฐบาลชุดนี้คิดว่าได้วางไว้ ก็ต้องทำให้โครงสร้างของพรรคหรือการจัดขั้วอำนาจ เพื่อรองรับรัฐบาลหลังเลือกตั้งให้ความหวังกับประชาชนได้มากกว่าวิธีแบบนี้
“บรรยากาศการดูดและกวาดต้อนส.ส.สะท้อนสมการอำนาจที่ยังไม่เปลี่ยน ยังวนอยู่ในกับดักเดิม ซึ่งอาจจะส่งผลให้การเลือกตั้งไม่สร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศจะดีขึ้นในเงื่อนไขสถานการณ์การเมืองแบบนี้ พรรคที่คสช.สนับสนุนน่าจะมีความได้เปรียบกว่าทุกพรรค แต่การส่งสัญญาณดูดส.ส.แบบนี้อาจจะกระทบภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือได้ เพราะประชาชนมองว่าเป็นวิธีเก่าและเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเมืองที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามความคาดหวังของประชาชนต่อพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคขนาดใหญ่ที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล คงไม่มีใครอยากเห็น แต่ภาพนักการเมืองหน้าเดิม ๆ สลับหน้ากันอยู่ในกลุ่มและเครือข่ายเก่า ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเมืองล้มเหลว” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้าคสช.คิดจะตั้งพรรคต้องยอมรับว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่จะทำพรรคทั้งทีควรมีอะไรใหม่ ๆ มาเสนอประชาชนด้วย เพราะเดิมพันในสนามเลือกตั้งอาจไม่ง่ายอย่างที่คิดและอาจยากกว่าการทำรัฐประหาร.-สำนักข่าวไทย
