สงขลา 19 เม.ย. – นายชาญณรงค์ วิเชียรขจร อายุ 57 ปี ชาวปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และครอบครัว ปลูกผักโต้วเหมี่ยว ส่งขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงตอนนี้ประมาณ 20 กว่าปี เป็นเจ้าแรกในภาคใต้และเจ้าเดียวใน จ.สงขลา โดยจดทะเบียนเป็นบริษัทชื่อ เสริมมิตร รุ่งเรือง เพื่อเป็นมาตรฐานด้านการค้า
การปลูกผักโต้วเหมี่ยวที่สำคัญคือ ต้องมีพื้นที่สร้างเป็นโรงเรือน อากาศถ่ายเทได้สะดวก สำหรับที่ใช้อิฐก่อเป็นฐานสูงประมาณ 80 ซม. ด้านบนใช้ปูนทำคล้ายๆ กระบะกว้าง 150 ซม. ยาว 20 เมตร ค่อยๆ ลดระดับความสูงของฐานลงมาเพื่อให้น้ำไหลได้ ส่วนวิธีการปลูกต้องเตรียมขี้เลื่อย โดยจะใช้ขี้เลื่อยจากยางพารา เพราะจากการทดลองมา ขี้เลื่อยจากไม้ยางพาราจะทำให้เมล็ดพันธุ์โต้วเหมี่ยวงอกและให้ผลผลิตดีที่สุด โดยนำขี้เลื่อยมาแช่น้ำไว้ 1 คืน ล้างด้วยน้ำสะอาด 3 ครั้ง แล้วนำมาผึ่งให้แห้ง 1 วัน นำไปใส่บนกะบะปูนเกลี่ยให้เสมอ ความสูงประมาณ 5 ซม.
จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้หว่านลงให้ทั่วแล้วใช้ขี้เลื่อยโรยด้านบนบางๆ นำตาขายกรองแสงกั้นล้อมไว้ เพราะโต้วเหมี่ยวชอบแสงแบบทึบๆ ประมาณ 2-3 วัน เมล็ดพันธุ์ก็เริ่มงอก 9-10 วัน ก็สามารถตัดได้ ช่วงที่ต้นงอกและเจริญเติบโตต้องคอยดูขี้เลื่อย อย่าปล่อยให้แห้ง ปล่อยน้ำหรือพรมน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ บางวันต้องเปิดสปริงเกอร์พ่นน้ำให้อากาศเย็น เพราะต้นโต้วเหมี่ยวชอบอากาศที่เย็นๆ ทำให้ต้นโตเร็วมาก
นายชาญณรงค์ กล่าวว่า ผักโต้วเหมี่ยวเก็บได้ทุกวัน เพราะในการปลูกจะกะเวลาเก็บไว้ให้พอดี เก็บรุ่นนี้รุ่นต่อไปก็เก็บได้ในอีกวัน โดยจะเก็บวันละ 4 ร่อง หรือ 4 แถว ตั้งแต่ 05.00 น. ทุกวัน โดยใช้กรรไกรตัดต้นโต้วเหมี่ยวใส่ตะกร้า นำไปแพ็กลงถุงและกล่องขนาดต่างๆ ส่งให้ลูกค้า ส่วนการตลาดยังไปได้ดี แม้เศรษฐกิจจะตกต่ำ ราคาขายผักโต้วเหมี่ยวกิโลกรัมละ 150 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือน รวมกว่า 100,000 บาท งแม้จะรายได้ดี แต่การลงทุนก็สูง โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ เพราะในประเทศไทยไม่มี ต้องสั่งนำเข้าจากแคนาดา และนิวซีแลนด์. – สำนักข่าวไทย