ราชบุรี 17 เม.ย.-ชาวบ้านในชุมชนบ้านไผ่แบ้รวมใจ จัดกิจกรรมงานประเพณีช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความสนุกสนาน มีการละเล่นหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการละเล่นผีลอบ สืบต่อกันมายาวนานกว่า 100 ปี
ชาวบ้านในชุมชนบ้านไผ่แบ้รวมใจ จัดกิจกรรมงานประเพณีช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความสนุกสนาน มีการละเล่นหลากหลาย เช่น ละเล่นชักเย่อ การละเล่นแย้ลงรู การละเล่นตีกอล์ฟคนจน โดยให้ผู้หญิงเอาไม้ทำเป็นปลัดขิกผูกไว้ระหว่างขาและแกขงให้ถูกลูกกอล์ฟจนถึงเส้นชนะ ปีนี้กระแสการแต่งกายชุดไทยฮิต ชาวบ้านจึงนิยม แต่งกายนุ่งโจงกระเบน สวมผ้าไทยโบราณออกมาร่วมเล่นกิจกรรมกัน ถือเป็นการอนุรักษ์ประเพณีไทยของท้องถิ่น และยังทำให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในชุมชน ที่สำคัญคือ การละเล่น ผีลอบ สืบต่อกันมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายเขมร และยังมีแห่งเดียวของประเทศที่ได้นำเอา “ลอบ” หรือลอบไซ ดักปลามาใช้เข้าผี และมีการไม้สาแหรกคานหาบ ซึ่งต้องเป็นผู้หญิงม่ายใช้เท่านั้น มาร่วมในการละเล่นนี้ โดยเป็นความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายเขมรว่า ผีลอบที่อาศัยอยู่ในลอบดักปลาและสาแหรกคานหาบนี้จะดลบันดาลให้นำสิ่งที่เป็นมงคลมาดูแลรักษาลูกหลานให้มีความเจริญรุ่งเรือง
ในกิจกรรมผีลอบก็จะมีการนำผ้าขาวม้ามาผูกกับลอบดักปลาให้มิดชิดและนำไม้สาแหรกคานหาบวางไว้บนลอบ พร้อมกับใช้ผ้าขาวม้าคลุมทับอีกครั้ง แล้วจุดเทียนบริเวณปลายสาแหรกคานหามทั้ง 2 ด้าน เพื่ออันเชิญผีบรรพบุรุษ หรือผีไม่ญาติมาร่วมพิธี จะมีชาวบ้านมานั่งล้อมวงร่วมร้องเพลงพร้อมกับปรบมือไปตามจังหวะ มีการนำไม้ไผ่มาวางแล้วให้ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมเคาะไปตามจังหวะเพลง พอเสียงเพลงอันเชิญดังขึ้นผู้ชายที่อาสาเข้ามาเข้าผีจะนั่งอยู่ในวงที่มีผู้หญิง 2 คนคอยจับลอบไว้ เมื่อเสียงเพลงร้อยไปเรื่อยๆ ลอบก็แกว่งไปมา นั่นหมายถึงผีกำลังจะเข้า ชายหนุ่มที่อยากลองของก็จะเริ่มมีอาการสะลึมสะลือคล้ายกับจิตกำลังหลุดลอย เมื่อได้จังหวะก็จะกระโจนพุ่งตัวเข้ากอดลอบดักปลาจนแน่นอย่างรวดเร็ว แล้วกลิ้งหมุนไปตามพื้นดินหลายรอบแสดงถึงอิทธิฤทธิ์ของผีลอบได้แสดงให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบเห็น และหลังจากผู้ที่กอดลอบดักปลากลิ้งไปอยู่นานหลายรอบจนหมดแรง ทำให้เพื่อนๆ ต้องช่วยกันจับลอบออกจากตัวออกไป จากนั้นก็เอายาดมมาให้ผู้ที่กอดลอบเพราะหมดแรง เป็นความเชื่อที่พิสูตรได้ยากมากว่าด้วยสาเหตุใดถึงลอบพาตัวคนกลิ้งไปกับพื้นได้ 2 – 3 คน เป็นเรื่องที่แปลกใจและคาใจมากเลยทีเดียว ทั้งนี้การละเล่นนี้ ถือเป็น กิจกรรมที่ให้เกิดความรักความสามัคคีกรมเกรียวของคนในชุมชนต่อไปอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
