กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – ตำรวจท่องเที่ยวจับเจ้าของบริษัททัวร์เถื่อน หลอกขายแพคเกจทัวร์เกาะหลีเป๊ะทางอินเตอร์เน็ตกลโกงหลากหลาย มีผู้เสียหายแล้วมูลค่า กว่า 10 ล้านบาท
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงผลการจับกุมพนักงานบริษัทไทยอัลฟ่า อันดามัน จำกัด บริษัทนำเที่ยวชื่อดัง จำนวน 6 คน ประกอบด้วยนางสาวธัญญรัศม์ สายสังวาล /นางสาวณวนัส โพธิ์สุข / นางสาวขวัญฤทัย มนต์แก้ว / นางสาวสถาพร ทองพรหม/ นางสาวธนิภา กัณหาชาติ /และ นางสาวมลฑาทิพย์ พลอยประภัสมุข ตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ใน 4 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน / ร่วมกันโฆษณาโดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นของตน หรือของผู้อื่น โฆษณา อันเป็นเท็จ หรือข้อความที่ควรรู้ หรือรู้อยู่แล้ว ว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด / ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยว กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยว / ร่วมกันไม่ปฏิบัติตามโฆษณา หรือ ชวนเชื่อเกี่ยวกับรายการนำเที่ยว
โดยการจับกุมครั้งนี้มีนักท่องเที่ยวไทย จำนวน 44 คน ไปท่องเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะตามแพคเกจทัวร์ที่ซื้อไว้กับบริษัทดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 แต่ไม่สามารถท่องเที่ยวได้ตามที่กำหนดไว้ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ต่อมามีนักท่องเที่ยวกว่า 400 คน รวมตัวร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค หรือ ปคบ. หลังพบว่าแพคเก็จทัวร์ที่ซื้อไว้ไม่สามารถท่องเที่ยวได้จริง อีกทั้งบริษัทได้ปิดตัวลงไม่สามารถติดต่อได้
จากการสืบสวนพบว่า บริษัทดังกล่าว มีนายถาวร ไกรแก้ว และนายประทีป แก้วนนท์ เป็นผู้จัดตั้งและบริหารบริษัท มีการประกาศขายแพคเกจทัวร์ทางเฟสบุ๊คและแอปพลิเคชันไลน์ โฆษณาชักชวนขายถูกกว่าบริษัทอื่นๆ มีระยะเวลาใช้บริการยาวนานถึง 2 ปี และจัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ทำให้ประชาชนหลงเชื่อจำนวนมาก พบมีเงินไหลเวียนในบริษัทกว่า 10 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม 2561 ก่อนนักท่องเที่ยวชุดแรก 44 คนจะเข้าแจ้งความเพียง 1 วัน นายประทีป ได้หอบเงินปิดบริษัทหลบหนี ลอยแพลูกค้ากว่า 1,600 คน สำหรับนายถาวรถูกตำรวจจับกุมตัวได้แล้วแต่นายประทีปยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
ด้าน พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ระบุว่า การซื้อขายแพคเกจทัวร์ราคาถูก ประชาชนผู้ซื้อต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และไม่ควรเห็นแก่ของราคาถูก มากจนเกินไป ควรเปรียบเทียบ ศึกษาราคากับบริษัทอื่นในท้องตลาดด้วย อีกทั้งการจัดโปรโมชั่นและระยะเวลาใช้บริการที่ยาวนานผิดปกติ พบเกิดคดีมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้เคยเปิดบริษัทภูพระนาง ที่จังหวัดกระบี่ และมีหมายจับติดตัวหลายหมายแต่มาก่อคดีซ้ำอีก พร้อมฝากถึงนายประทีปให้รีบมอบตัวตำรวจให้เวลาเพียง 7 วันก่อนจะเข้าจับกุม
ขณะเดียวกันเตือนผู้ประกอบการอย่าใช้วิธีการแบบนี้มาฉ้อโกงประชาชน เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตำรวจและการท่องเที่ยวจะไม่ปล่อยให้ประกอบกิจการที่ทำลายการท่องเที่ยวของประเทศชาติโดยเด็ดขาด.- สำนักข่าวไทย


