อยุธยา 30 ก.ย.-รมว.เกษตรฯบินตรวจน้ำท่วมอยุธยา พร้อมสั่งการด่วน 5 ข้อแก้ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ ห้ามระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที ถ้าทุ่งไหนเกี่ยวข้าวหมดแล้ว ต้องระบายน้ำเหนือเข้าทุ่งทันที
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะบินสำรวจสภาพน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำป่าสัก ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารของกรมชลประทานและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากก่อนหน้านี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเกิดข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่ผันน้ำเข้าทุ่งนา ซึ่งเชื่อว่าหากผันน้ำเข้าไปได้ จะสามารถลดระดับน้ำท่วมสูงริมแม่น้ำได้
ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาประชุมนานเกือบ 2 ชั่วโมง โดย พล.อ.ฉัตรชัย ได้สั่งการในที่ประชุม 5 ข้อ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม คือ 1.สั่งให้ตัดมวลน้ำเหนือไหลหลากเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาท ให้กระจายออกช่องทางด้านซ้ายและขวาให้มากที่สุด 2.ห้ามระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที 3.ต้องหาพื้นที่เก็บน้ำไหลหลาก ไม่ใช่ระบายลงเจ้าพระยาเพียงอย่างเดียว 4.ต้องหาแก้มลิงทุกแม่น้ำทางภาคเหนือและสองฝั่งเจ้าพระยา และ 5.ประสานงานทุกจังหวัด หากทุ่งใดเกี่ยวข้าวหมดแล้ว ต้องระบายน้ำเหนือเข้าทุ่งทันที
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พร้อมผันน้ำเข้าทุ่งตามที่รัฐมนตรีสั่งการด่วน แต่ต้องให้จังหวัดนั้นๆ ทำหนังสืออย่างเป็นทางการมาว่า ได้เกี่ยวข้าวหมดแล้ว หากหนังสือจากจังหวัดมาถึง ก็พร้อมผันน้ำเข้าทุ่งให้ทันที
สำหรับทุ่งนาแก้มลิงในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามข้อมูลของโครงการชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 4 ทุ่ง รวมพื้นที่ 507,450 ไร่ เก็บน้ำได้รวม 1,145 ล้าน ลบ.ม. ประกอบด้วย 1.ทุ่งบางบาล-ป่าโมก 30,000 ไร่ เก็บน้ำที่ระดับความสูง 1.50 เมตร ได้ 75 ล้าน ลบ.ม. 2.ทุ่งบางบาลฝั่งตะวันตก 27,450 ไร่ เก็บน้ำได้สูง 3 เมตร จำนวน 130 ล้าน ลบ.ม. 3.ทุ่งผักไห่ 130,000 ไร่ เก็บน้ำได้สูง 1.50 เมตร จำนวน 300 ล้าน.ลบ.ม. และ 4.ทุ่งเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา เนื้อที่ 320,000 ไร่ เก็บน้ำได้สูง 1 เมตร ที่จำนวน 640 ล้าน ลบ.ม. .-สำนักข่าวไทย