สุราษฎร์ธานี 15 เม.ย.- เกิดเหตุเรือชนกันในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนรัชชประภา จนท.เข้าช่วยเหลือได้ทันนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ. ด้าน ปภ.สุราษฎร์ฯ ระบุผู้โดยสารทุกคนสวมเสื้อชูชีพ เป็นผลมาจากมาตรการเข้มงวดป้องกันอุบัติเหตุ
เมื่อเวลา 12.30 น. (15 เม.ย.) ร.ต.อ.อนันต์ เพ็ชรวงศ์ รอง สวป. สภ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวบริเวณท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลบ้านเชี่ยวหลาน รับแจ้งเหตุเรือชนกันในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เชี่ยวหลาน) หลังจากเรือวิ่งออกจากท่าไปได้ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือรอดมาได้ทั้งหมด คือ เรือจุฑารักษ์ มีทั้งหมด 5 ราย เป็นผู้โดยสาร 4 ราย และคนขับเรือ ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ ส่วนอีกลำเป็นเรือพรหมทองใหญ่ มีผู้โดยสาร 9 ราย สวมเสื้อชูชีพเช่นเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 13 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลบ้านตาขุน
เบื้องต้นทราบว่าเรือจุฑารักษ์ นำผู้โดยสารออกจากท่าเทียบเพื่อเที่ยวภายในอ่างเก็บน้ำ ขณะที่เรือพรหมทองใหญ่กำลังแล่นเข้ามาเพื่อรับส่งผู้โดยสารกลับขึ้นฝั่ง อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำคนขับเรือทั้งสองลำและผู้อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้านนายจำนง สวัสดิวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการทำงานอย่างเข้มข้นในการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและเจ้าท่าสุราษฎร์ธานี ได้การรณรงค์ผู้ประกอบการเรือทุกลำก่อนจะออกจากท่าตำบลบ้านเชี่ยวหลาน จะต้องให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชีพทุกคน ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ออกจากท่าเด็ดขาด จากมาตรการดังกล่าวทำให้เหตุเรือชนในครั้งนี้ไม่มีผู้สูญเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย
ขอบคุณภาพ สภ.บ้านตาขุน