ผู้ถูกวิสามัญ 2 รายที่ปัตตานีเป็นบุคคลหลายหมายจับ

ปัตตานี 11 เม.ย.- กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจงเหตุวิสามัญที่ปัตตานี 2 ราย ระบุเจ้าหน้าที่ยึดหลักกฎหมายและปฏิบัติการตามสถานการณ์ ผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงต่อสู้ พร้อมตรวจสอบประวัติพบเป็นบุคคลมีหลายหมายจับ 


พ.อ.ธนาวีร์  สุวรรณรัตน์  รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 สน. กรณีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับตำรวจในจังหวัดปัตตานี และถูกวิสามัญ 2 ราย ในพื้นที่ตำบลระแว้ง อำเภอยะรัง เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ว่า  ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.25 น. ขณะที่ตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรยะรัง จำนวน 8 นาย เดินทางด้วยรถกระบะ 2 คัน เพื่อปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ เมื่อมาถึงถนนสายระแว้ง-สะนอ บ้านระแว้ง ตำบลระแว้ง อำเภอยะรัง พบบุคคลต้องสงสัย 3 คน  จอดรถจักรยานยนต์พูดคุยกันอยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบ แต่ 2 ใน 3 ได้ใช้ปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร ยิงใส่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย จากนั้นขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป 1 คน อีก 2 คน วิ่งหนีเข้าสวนยางพารา เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและเกิดตอบโต้กันขึ้น ทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิต 2 ราย พร้อมยึดของกลางปืนพก 9 มม. จำนวน 2 กระบอก และระเบิดขว้างแบบมาตรฐาน เอ็ม-67 จำนวน 1 ลูก

พ.อ.ธนาวีร์ กล่าวว่า  ผู้เสียชีวิตทั้งสองนั้น  รายหนึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มก่อเหตุระดับปฏิบัติการ เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ศาลจังหวัดปัตตานี จำนวน 18 หมาย  ก่อเหตุอุกอาจมาหลายพื้นที่ในจังหวัดปัตตานีตามหลักฐานที่พบชัดเจนจากกล้องวงจรปิด เช่น เหตุปี 2559 ยิงครูอัตราจ้าง กศน.มายอ เสียชีวิต และลูกจ้าง กศน.มายอ บาดเจ็บ ทั้งสองเป็นสตรี


ส่วนผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตอีกรายเป็นสมาชิกรุ่นใหม่ เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย มีคดีสำคัญได้แก่เหตุลอบยิงนายอูมา อีแต ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลประจัน อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต เมื่อเดือนมกราคม 2561

พ.อ.ธนาวีร์ กล่าวว่า เหตุวิสามัญในครั้งนี้ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ขอแสดงความเสียใจมายังญาติผู้สูญเสียทั้ง 2 ราย ซึ่งเป็นปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน เนื่องจากผู้ก่อเหตุขัดขืนใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีหมายจับ พร้อมกันนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยไหวพริบ สามารถยับยั้งเหตุไม่ให้สูญเสียเพิ่มขึ้น ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่ยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เที่ยงธรรม ยึดหลักสิทธิมนุษยชนกับผู้กระทำผิดทุกกรณี และยังเปิดโอกาสช่องทางให้ผู้ที่หลงผิดกลับมาต่อสู้คดีตามโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และร่วมกันสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่