ฎีกายืนจำคุก33ปี4เดือน4คนร้ายลอบวางระเบิดย่านรามคำแหงปี56

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.- ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 33 ปี 4 เดือน 4 คนร้ายร่วมกันวางระเบิดบริเวณหน้าร้านออกัส ปากซอยรามคำแหง เมื่อปี 2556 


ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายอัฟฟาฮัม หรือโจ สะอะ นายอิคดริส หรือเยะ สะตาปอ  นายคัมภีร์ หรือภีร์ ลาเต๊ะ และนายอิบรอเฮง หรือเฮง  แวแม  เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, กระทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุสมควร 

กรณีวันที่ 26 พ.ค.56 เวลากลางคืน จำเลยร่วมกันนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ที่จุดทิ้งขยะหน้าร้านออกัส ซอยรามคำแหง 53/1 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เพื่อจะฆ่าผู้อื่น แต่ไม่สำเร็จ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ทรัพย์สินบางส่วนได้รับความเสียหาย คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง4 คน  คนละ 50 ปี  ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดโทษ เหลือจำคุกจำเลยคนละ 33 ปี 4 เดือน  


โดยคำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2556 เวลากลางคืนหลังเที่ยงคืน จำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องแล้วนำไปวางไว้บริเวณจุดทิ้งขยะ หน้าร้านออกัส ซ.รามคำแหง 43/1 จนระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และมีร้านค้าแผงลอย อาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 402,000 บาท หลังเกิดเหตุทั้งหมดพากันหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และได้จับกุมจำเลยดำเนินคดีตามกฎหมาย เกิดเหตุที่หน้าร้านทำผมออกัส ปากซอยรามคำแหง 43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ตามจำเลยทั้ง 4 ยื่นฎีกานั้น ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ขอถอนฎีกา จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ ส่วนจำเลยที่ 2 และ 4 ขอแก้ไขฎีกาเป็นการให้การรับสารภาพ ขอให้ลงโทษสถานเบา ถือเป็นการยอมรับข้อเท็จจริง ไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ สำหรับจำเลยที่ 3 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น โจทก์มีพยานเจ้าหน้าที่ตำรวจเบิกความจากการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายต้องสงสัยถือถุงพลาสติกหายไปในจุดเกิดเหตุ เมื่อเดินกลับออกมาไม่มีถุงดังกล่าวก่อนเกิดเหตุระเบิด จากการสอบสวนทราบว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้นำระเบิดไปวาง จำเลยที่ 1, 2 และ 4 เป็นผู้สำรวจดูต้นทาง โดยจำเลยที่ 3 หลังถูกจับกุมยอมรับว่าภาพชายต้องสงสัยเป็นภาพตนเอง ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ  โดยคำรับสารภาพได้ให้การไว้กับพนักงานสอบสวน มีทนายความและคณะกรรมการอิสลามร่วมอยู่ด้วย พยานหลักฐานโจทก์หนักแน่นเชื่อถือได้ว่าจำเลยทั้ง 4 กระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท