‘3 ไม่’ ขจัดเสี่ยงโรค จากเล่นน้ำสงกรานต์

สธ.10 เม.ย.-กรม สบส.แนะวัยรุ่น เล่นน้ำช่วงสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย ด้วยหลัก 3 ไม่ ‘ไม่สาดน้ำ-ไม่ฉีดน้ำใส่หน้า-ไม่เล่นน้ำนาน-ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์’ ขจัดความเสี่ยงจากโรคและภัยสุขภาพจากการเล่นน้ำ 


นพ.ภัทรพล  จึงสมเจตไพศาล  รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.)  กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย.ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนหลายคนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งมักจะออกไปเล่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยโรคที่พบได้บ่อยครั้งจากการเล่นน้ำสงกรานต์ ได้แก่ 1)โรคตาแดง  2)โรคผิวหนัง อาทิ  ผดผื่น กลาก และเกลื้อน ฯลฯ  3)โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม 4)โรคลมแดด ซึ่งเกิดจากการตากแดดเป็นเวลานาน  


ดังนั้น เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงรับสิ่งดีๆในช่วงวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทย กรม สบส.ขอแนะหลัก “3 ไม่” ให้หนุ่ม-สาวได้นำไปใช้เพื่อการเล่นน้ำสงกรานต์ที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ดังนี้ 


1) ไม่สาด/ฉีดน้ำใส่บริเวณใบหน้าผู้อื่นโดยตรง ป้องกันการเกิดโรคตาแดง/อักเสบ 

2) ไม่เล่นน้ำเป็นระยะเวลานาน เพราะการสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน ประกอบกับการเล่นติดต่อกันหลายวัน และพักผ่อนน้อยอาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ อาทิ โรคปอดอักเสบหรือปอดบวมได้ง่าย และประการสำคัญ 

3)ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน หรือการทะเลาะวิวาทแล้ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วและออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักขึ้นอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ 

นอกจากนี้ ควรพกน้ำสะอาดไว้ติดตัวเสมอ เพื่อดื่มทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปจากอากาศที่ร้อนจัด และขณะเล่นน้ำหากถูกน้ำไม่สะอาดเข้าที่ดวงตาหรือบาดแผลก็ควรใช้น้ำสะอาดล้างบริเวณดังกล่าวเพื่อลดปริมาณเชื้อโรคให้มากที่สุด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง

ดอยอินทนนท์หนาวจัด

อากาศหนาวปกคลุมภาคเหนือ ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเหลือ 1 องศาฯ

อากาศหนาวระลอกใหม่ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ 1 องศาฯ ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิ 5 องศาฯ นักท่องเที่ยวรอชมแสงแรกจนเต็มพื้นที่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน หนาวจัด กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน อากาศหนาวจัด ส่วนประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยกับมีลมแรง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาฯ

รถรางโดยสารชนกันในฝรั่งเศส บาดเจ็บ 68 คน

รถรางโดยสาร 2 ขบวน ชนประสานงากันในเมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 68 คน