กรุงเทพฯ 10 เม.ย.- ซ้ำอีก..รถขนแรงงานเมียนมาพลิกคว่ำพื้นที่ ต.แม่ท้อ จ.ตาก แรงงานเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บกว่า 30 คน โชเฟอร์อ้างระบบเบรกไม่ทำงาน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ เปิดเผยกรณีรถยนต์โดยสารตกข้างทาง ในพื้นที่ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก จ.ตาก ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 22.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ท้อ จ.ตาก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์โดยสารตกถนน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณ ถ.แม่สอด-ตาก (ขาล่อง) กม.ที่ 68-69 หมู่ที่ 11 ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ท้อ พบรถยนต์โดยสาร 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 33-5488 กรุงเทพมหานคร ตกถนนพลิกตะแคง พบนายพิสิษฐ์ ธนภัคพสิษฐ์ แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยสาร และพบแรงงานชาวเมียนมาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 6 ราย ได้รับบาดเจ็บ 30 ราย (มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวมอยู่ด้วย 17 ราย)
จากการสอบถามผู้โดยสารที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์โดยสารคันดังกล่าวบรรทุกชาวเมียนมา จำนวน 51 คน เป็นแรงงาน MOU ที่เดินทางจาก อ.แม่สอด จะมุ่งหน้าไปยัง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานติดต่อนายจ้างให้ทราบแล้ว พร้อมทั้งได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อระบุตัวตนผู้เสียชีวิต และให้ญาติติดต่อขอรับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
เบื้องต้นนายพิสิษฐ์ ธนภัคพสิษฐ์ ผู้ขับขี่รถยนต์โดยสาร ให้การกับพนักงานสอบสวนว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดจากระบบเบรกไม่ทำงาน พนักงานสอบสวน สภ.แม่ท้อ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบสำนวน
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบแล้ว ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและถูกวิธี โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ทั้งทางจังหวัด เจ้าหน้าที่พยาบาล กู้ภัย และให้บริหารสถานการณ์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะผู้ประสบเหตุเป็นบุคคลต่างด้าวจำนวนมาก การยืนยันตัวบุคคลจะต้องกระทำด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ การสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุจะต้องกระทำด้วยความละเอียดรอบคอบ พร้อมยังได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ทำงานด้วยความรวดเร็ว โดยอาศัยพยานหลักฐาน ทั้งนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อมต่างๆ เป็นสำคัญ อย่างตรงไปตรงมา เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและสามารถตอบคำถามต่อสังคมได้
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารสาธารณะ หมั่นตรวจเช็กสภาพรถ เครื่องยนต์ ทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน.-สำนักข่าวไทย
