fbpx

วีระ จี้นายกฯ ตรวจสอบกรณีครอบครัวอดีตปลัด กห.

veera somkwamkid - 1-10-2559 13-34-32ม.รังสิต 1 ต.ค.-  วีระ จี้นายกฯ ตรวจสอบกรณีครอบครัวอดีตปลัดกลาโหม ชี้ ไม่ควรปกป้อง หากปล่อยไว้จะทำลายความน่าเชื่อถือการปราบปรามทุจริตของรัฐบาล


นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เชื่อว่า กรณีบุตรชายคนโตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลางโหม  เปิดบริษัทในค่ายทหาร และได้รับงานจากกองทัพภาคที่ 3    มีความไม่ชอบมาพากล  พล.อ.ปรีชาไม่สามารถตอบคำถามของสังคมได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้บ้านพักในค่ายทหารจดทะเบียนเป็นบริษัทในปี 2555 ขณะที่ พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่มีส่วนรู้เห็น

“ดังนั้น พล.อ.ปรีชาจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย  แม้ว่าเรื่องดังกล่าวนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบเอาผิดแล้ว แต่ผมจะไปช่วยดูคำร้องและตรวจสอบควบคู่อีกทางหนึ่ง” นายวีระ กล่าว


นายวีระ ยังเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพี่ชาย พล.อ.ปรีชา ไม่ควรเพิกเฉย และต้องตรวจสอบเรื่องของบุคคลใกล้ชิด ไม่ควรออกมาปกป้อง เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์พูดเสมอว่า จะเข้ามาตรวจสอบแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น  และยังทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตแห่งชาติ

นายวีระ กล่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ดำเนินการใดๆ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรพูดจาข่มขู่ว่า จะตรวจสอบคนที่เข้าร้องเรียนกรณีของ พล.อ.ปรีชา เนื่องจากเป็นการคุกคามระบบตรวจสอบ

“ผมตั้งข้อสังเกตการทำงานของ ป.ป.ช. ว่ามีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ โดยเฉพาะการไม่ดำเนินการตรวจสอบเรื่องการร้องการทุจริต ที่เกี่ยวข้องกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งกรณีอุทยานราชภักดิ์ และการแต่งตั้งบุตรชายคนเล็กของ พล.อ.ปรีชา เข้ารับราชการทหาร แต่กลับตีตกคำร้อง โดยไม่มีการไต่สวนข้อเท็จจริง และไม่มีการทำหนังสือชี้แจงเหตุผลมายังผู้ยื่นเรื่องด้วย” นายวีระ กล่าว


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย